ณ เวลานี้คงไม่มีใครรู้จัก "รังสิมา รอดรัศมี" ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.สมุทรสงคราม
เพราะนอกจากจะมีบุคลิกที่โดดเด่นในสภาฯ ในการอภิปรายทุจริตถุงยังชีพที่ผ่านมาแล้ว ยังได้รับขนานนามว่าเป็นส.ส.ฝีปากกล้า คนหนึ่งก็ว่าได้
ล่าสุด "รังสิมา" เพิ่งได้รับฉายา "ดาวเด่น" ประจำสภาผู้แทนราษฎรปีนี้มาหมาดๆ ด้วยดีกรีส.ส. 4 สมัย แม้เจ้าตัวจะบอกว่า ยังไม่ได้ติดตามข่าว แต่ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง
นอกจากนี้ "รังสิมา" ยังได้รับให้คัดเลือกเป็นคณะกรรมาธิการติดตามงบประมาณอีกด้วย
ถึงอย่างนั้นก็ตาม หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักบทบาทของเธอ มากกว่านั้น อะไรที่เป็นเหตุทำให้คนที่รักในอาชีพพยาบาลมาเป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้
จากบทบาทดังกล่าว "รังสิมา" ให้สัมภาษณ์กับ "มติชนออนไลน์" ว่า ดิฉันเป็นพยาบาลมา 20 ปี คนไข้เยอะ อีกอย่างคือทำคลอดมาเยอะ ทำให้คนที่เลือกเราส่วนใหญ่เป็นคนไข้ และคนที่คลอดกับเราก็ไปมีเขย สะใภ้ ก็ช่วยกันเลือกอีก พอมีลูกหลานก็มาช่วยเรา ทั้งนี้ คนแก่ที่มานอนโรงบาลก็บอกก่อนตายเลยว่าถ้า "หมอโอ๋" (ชาวบ้านเรียกว่าหมอ) ขอความช่วยเหลืออะไรก็ให้ช่วย ที่รู้เพราะปี 39 แล้วแพ้ ลูกคนที่ตายเขาบอกเราว่า ถ้าสู้อีกก็จะได้ 6 เสียงเหมือนเดิม เพราะก่อนแม่ตายได้สั่งไว้ว่าให้ช่วยหมอ เพราะหมอช่วยแม่ คือเขาเป็นโรคหัวใจล้มเหลว ท้องผูก เราก็ล้วง แม้เรากำลังกินข้าวอยู่ เราก็ล้วงได้ เขาเห็นเราก็ซึ้งใจ ล้วงเสร็จเขาก็มีความสุข กินได้ นอนหลับ
เราชอบช่วยเหลือคน ไม่คิดจะเล่นการเมือง เพราะเป็นพยาบาลบริการทุกอย่าง ไม่ว่าตัดเล็บ ตัดผม ขัดขี้ไคล ซ่อมเสื้อผ้า นวด ฯลฯ เมื่อเวลาว่างเราก็ทำได้ บางคนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต นอนโรงพยาบาลนานเป็นปีก็ดูแลเขา
ชีวิตตั้งแต่เกิดมาลำบาก เพราะเป็นลูกคนจีน มักจะไม่ให้ลูกผู้หญิงเรียน เราก็อยากจะเรียน อีกอย่างเป็นลูกคนโต มีพี่น้องด้วยกัน 9 คน กว่าจะจบมส.3. ได้ยากมาก แต่อาศัยเรียนเก่ง (คณิตศาสตร์) ทั้งนี้ กลัวลำบากด้วยหากไม่ได้เรียน ต้องแอบทำการบ้านบนถุงกล้วยแขก เพราะสมัยก่อนก็ไม่มีแบบฝึกหัดขาย ตรุษจีนต้องพายเรือขายเครื่องไหว้เจ้า ชีวิตสู้มาก
คิดอยากเป็นทหารเรือ ก็เป็นไม่ได้เพราะวุฒิมส.3 เป็นได้แค่จ่า ต้องจบปริญญาตรี จึงหนีไปโรงเรียนประจำจังหวัด ไกลมาก
ตื่นสายต้องช้าไปอีก 1 ชั่วโมง ทางก็เป็นลูกรัง ไม่ทันกินข้าวเช้าบ้าง เราก็ต้องทน ตรงนั้นจึงทำให้เราแกร่ง แต่ก็ไม่ได้ครึ่งของแม่ พอจบมาก่อนจะไปสอบผู้ช่วยพยาบาลที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เรียน 1 ปี รับข้าราชการ 2 ปี ก็เรียนศึกษาผู้ใหญ่ไปด้วยจนจบ แล้วไปสอบเรียนพยาบาลที่จ.สมุทรสงคราม เพราะกลัวสู้เด็กกรุงเทพฯไม่ได้ เรียน 2 ปี ที่จ.นราธิวาส ได้วุฒิอนุปริญญารุ่นแรก ส่วนหนึ่งเราเรียนศึกษาผู้ใหญ่สายศิลป์ (วาดเขียน) จะเรียนหลักสูตร 4 ปีก็ไม่ไหว เมื่อเรียนจบเป็นพยาบาล ก็สอบชิงทุนได้ที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.หาดใหญ่) จนเรียนจบปริญญาตรีอีก 2 ปี
แล้วเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างไร?
จากการเรียนที่มอ.หาดใหญ่ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเมือง ส.ส.รังสิมาเล่าให้ฟังว่า ตอนเรียนที่ใต้จะมีเพื่อนทุกจังหวัด เวลามีงานเขาก็จะพาเราไปดูการปราศรัยต่างๆ เราก็เห็นวัฒธรรมของเขา เขาไม่ดูหนังกลางแปลง เขาไปดูการปราศรัย บางครั้งปราศรัยจนถึงเช้าเลย คือเขาปลูกฝังตั้งแต่เด็ก เราก็ได้ซึมซับไปด้วย แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นนักการเมือง เพราะแม่เราค้าขาย ไม่มีญาติคนไหนเป็นนักการเมืองเลยแม้แต่คนเดียว
อีกอย่างก็คือว่านักการเมืองบ้านเราจะเป็นได้ต้องเป็นลูกนักเลง ลูกมือปืน มีฐานเสียง แต่เรามาจากศูนย์ ยังไงก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อกลับมาทำงานใช้ทุน สิ่งที่จะเห็นคือ ตอนกลาวันจะมีเด็กมาเย็บแผลทุกวันเลย เนื่องจากเด็กเล่นสนามเด็กเล่นแล้วเจออุบัติเหตุ เพราะนักการเมืองโกง คือส.ส.แต่ก่อนจะได้งบฯ คนละ 20 ล้าน ให้ทำอะไรก็ได้ ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ แต่ส.ส.ต่างจังหวัดจะซื้ออุปกรณ์เด็กเล่นราคาถูกชุดละ 2 พัน แต่ให้ครูเซ็นต์รับชุดละ 2 หมื่น ถ้าของได้มาตรฐานก็จะไม่มีปัญหา เมื่อไม่ได้คุณภาพของเล่นจะกรอบ แตกเป็นปากฉลามแล้วโดนเด็ก โดนเสียบบ้าง อาจทำให้เสียชีวิตได้