2พ.ย.2554 ที่อาคารรับน้ำบึงมักกะสัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะประกอบด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช , นายอลงกรณ์ พลบุตร , นายเกียรติ สิทธีอมร เดินทางไปดูสภาพการรับน้ำที่บึง พร้อมสอบถามสถานการณ์น้ำกับเจ้าหน้าที่อาคารรับน้ำ
จะเห็นว่าน้ำที่หลากลงมาจากทิศเหนือยังมีเยอะ และดูกำลังการระบายออกผ่านอุโมงค์ทั้งที่ไปพระโขนงและวัดช่องลมพระราม 3 เจ้าหน้าที่รายงานว่าการทำงานเกือบเต็มศักยภาพ จึงไม่อยากให้ประชาชนประมาท เพราะน้ำที่หลากลงมาไม่ว่าจะจากฝั่งพระนครหรือฝั่งธนฯที่ขณะนี้ได้เข้าถึงบางแคแล้ว ต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อปริมาณน้ำที่สูบออกกับเข้ามาไม่สมดุลย์ จะมีพื้นที่ใดบ้างที่จะได้รับผลกระทบ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
ทุกคนต้องมองไปที่พื้นที่ทางเหนือของตัวเอง เพราะถ้าน้ำรุกคืบเข้ามาเรื่อย ๆ ก็ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ส่วนการที่ยังไม่สามารถซ่อมประตูน้ำคลองสามวาได้สำเร็จนั้นก็อยากให้เร่งทำให้สำเร็จให้เร็วที่สุด กทม.ได้ใช้อำนาจและขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปช่วย จึงอยากขอความร่วมมือกับทุกฝ่าย เพราะระบบการระบายน้ำหากไปทำลายและไม่สามารถควบคุมการไหลของน้ำได้ ก็ไม่เป็นผลดีกับใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเอาตำรวจมาตรึงกำลังไว้เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะ เพราะควรเอาไปดูแลทรัพย์สินและประชาชน ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า
พูดมาระยะหนึ่งแล้วว่าอยากให้มีความชัดเจนแด็ดขาดในการบริหารจัดการ ในส่วนของตำรวจเสียงเรียกร้องอย่างมากจากประชาชน คือ การเข้าไปดูแลบ้านเรือนในพื้นที่ ที่อยากให้มีการอพยพไม่ยอมออกมา เพราะสาเหตุหนึ่งที่ไม่ยอมออกมาเพราะห่วงทรัพย์สิน
ส่วนที่นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม.เรียกร้องให้รัฐบาลประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นดุลพินิจของรัฐบาล เราได้ให้ข้อคิดไปแล้วและต่อมาสถานการณ์ก็ไม่เปลี่ยนแปลงมีแต่หนักขึ้น ในแง่การกระจายของพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนมีมากขึ้น