นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เปิดแถลงข่าวถึงกรณีที่ตนเองถูกคำพิพากษาศาลฎีกาให้ยึดทรัพย์ 3.4 ล้านบาท ทั้งเงินฝากธนาคาร-หุ้น ตกเป็นของแผ่นดิน ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการอกเงิน พ.ศ.2552 มาตรา 7 ว่า “ผมไม่สงสัยคุณสมบัติของตัวเอง และจะไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะเมื่อ กกต.และประธานสภาฯ ไม่สงสัย ผมจะสงสัยทำไม เพราะผมมีส่วนได้ มีส่วนเสีย” นายชูวิทย์กล่าว นายชูวิทย์ ยังกล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะเริ่มเปิดโปงความไม่โปร่งใสจากการขนถ่ายสิ่งของเถื่อนบริเวณชายแดนทั้งหมด โดยจะมีคลิปวิดีโอมาเปิดเผย เพราะหากเก็บภาษีจากธุรกิจเหล่านี้ เชื่อว่าจะมีมูลค่ามหาศาล โดยไม่ต้องเปิดบ่อนกาสิโน นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเรื่องสุรา ที่มีการซิกแซกไม่จ่ายภาษี ซึ่งมีโครงการของหน่วยงานหนึ่งที่มีกรณีสั่งของเหมือนรถดับเพลิงของกทม.ทุกประการ มูลค่าถึง8,070 ล้านบาท มีความเสียหายถึงครึ่งหนึ่ง เป็นโครงการสดๆ ร้อนๆ ข้อมูลถึงขั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้เลย “ยืนยันว่า คนที่อยู่เบื้องหลัง ถ้าเห็นสิ่งที่ผมเปิดเผย จะต้องหงายหลัง อาทิตย์หน้า ผมจะเปิด เป็นเรื่องสดๆ ร้อนๆ เหมือนรถดับเพลิงทุกประการ ของกองอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ใช้ ขอให้สังคมตัดสินว่า จะเอาคนอย่างชูวิทย์ไว้หรือไม่” นายชูวิทย์ กล่าว
ตนยอมรับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ให้ยึดทรัพย์ จากธุรกิจในอดีต ซึ่งก็ขอยอมรับว่าเคยทำธุรกิจสีเทา แต่ต้องการบอกว่า คนที่สีเทายังมีอีกมาก ถ้าไปจับแถวถนนรัชดาภิเษก เชื่อว่าจะเหมือนกันหมด จึงต้องการขอโอกาสให้ได้ทำงานชดใช้ให้ประชาชนและสังคม เชื่อว่า ตนจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมหาศาล มากกว่าที่ตัวเองเคยได้ทำงานการเมืองในอดีตที่ผ่านมา
ชูวิทย์ ขอโอกาสสังคมพิสูจน์ผลงาน
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!