“สุรพงษ์” ชี้ “ทักษิณ” แสดงวิสัยทัศน์เป็นประโยชน์ต่อไทย ย้ำชัดเตรียมคืนพาสปอร์ตไทยให้
วันนี้ (21 ก.ย.) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ ตำหนิประเทศกัมพูชา ในกรณีที่ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าประเทศ พร้อมกับระบุว่า เป็นการแทรกแซงกิจการภายในมิตรประเทศ และละเมิดกฎบัตรอาเซียนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับเชิญให้ไปพูดในการประชุมระหว่างประเทศ คิดว่าสิ่งที่พูดและประเด็นที่คุยกัน ไม่น่าจะส่งผลเสียให้ไทย ทุกคนน่าจะยอมรับได้ โดยเฉพาะกัมพูชา และนักลงทุนต่างๆ จะได้ฟังแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเชื่อว่าสิ่งที่พูดน่าจะเป็นประโยชน์กับไทย โดยการนำเสนอประสบการณ์ วิสัยทัศน์ และมุมมองต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งคาดว่าจะได้รับเชิญให้ไปอีกหลายประเทศ และสิ่งที่ท่านทักษิณโดน มันเป็นเรื่อง
“วันนี้สังคมโลกก็รู้อยู่แล้วว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โดน เป็นเรื่องการเมือง อินเตอร์โพลจึงไม่ออกหมายแดงตามจับ เพราะบางประเทศเขาแยกแยะออกว่า อันไหนเป็นการเมือง อันไหนไม่ใช่ อย่างที่ผมมาประชุมสหประชาชาติครั้งนี้ประเทศต่างๆเขาก็อยากเห็นความสงบ เปิดใจกว้าง และยอมรับฟังความเห็นคนอื่น เราต้องอยู่ด้วยกันด้วยเหตุด้วยผล ไม่อยากให้มองเป็นประเด็นการเมืองทุกเรื่อง ไม่อย่างนั้นจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลยกับประเทศชาติ อย่างผมก็มาในฐานะรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ได้มาทำหน้าที่แทนคนสีไหน แต่มาทำหน้าที่ให้ดีที่สุด" นายสุรพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่ามีการกล่าวหาว่า กระทรวงต่างประเทศทำผิดกฎหมาย เพราะเมื่อรู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณอยู่กัมพูชาทำไมไม่ดำเนินการขอตัว
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่เจ้าพนักงานที่จะไปตามจับ ตอนนี้ตนกำลังตรวจสอบข้อกฎหมายและระเบียบปฏิบัติต่างๆ หลังกลับจากประชุมที่สหประชาชาติ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อาทิ อัยการสูงสุด และคณะกรรมการกฤษฎีกา มาประชุมในเรื่องการละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เพื่อให้เกิดความชัดเจน ทั้งนี้ ตนและข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่เจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ไปตามจับ หรือแจ้งว่าใครอยู่ตรงไหน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ตนกำลังไล่ดูเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการยึดคืนหนังสือเดินทางสำหรับบุคคลธรรมดาของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าถูกต้องหรือไม่
เพราะตนมองว่าหนังสือเดินทางเป็นเสมือนเอกสารสำคัญประจำตัวบุคคลเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ เหมือนนักโทษที่ต้องโทษจำคุก ต้องถูกยึดบัตรประชาชนด้วยหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่อยากทำให้เกิดความกระจ่าง คาดว่าคงไม่นานเกินรอ แล้วจะเอาหลักฐานที่รวบรวมมานำเสนอให้สังคมรับทราบต่อไป.