เมื่อวันที่ 20 ก.ย. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ
ให้สัมภาษณ์ถึงการชะลอโครงการเรือดำน้ำมือสองยู 206 เอจากประเทศเยอรมนีว่า คณะกรรมการกลั่นกรองของกระทรวงกลาโหมกำลังพิจารณาส่วนผลสรุปจะออกมาอย่างไรยังไม่ทราบ แต่คิดว่ากองทัพเรือชี้แจงด้วยเหตุด้วยผลทุกอย่าง ส่วนข้อจำกัดที่กองทัพเรือเยอรมนีขอคำตอบจากไทยว่าจะซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ในวันที่ 30 ก.ย. นี้นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหมทราบถึงข้อนี้ดีซึ่งเราคิดว่ากระบวนการพิจารณาน่าจะทัน ส่วนผล ออกมาจะเป็นบวกหรือลบก็ไม่ว่ากันเพราะเราได้แสดงเจตจำนง ได้ชี้แจงเหตุผลให้คณะกรรมการตอบได้ทุกคำถาม
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถขอทางเยอรมนี ยืดเวลาซื้อออกไปได้หรือไม่
ผบ.ทร. กล่าวว่า เคยคุยอยู่เหมือนกันแต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยอย่างเป็นทางการเพราะเราต้องรักษาคำพูด แต่หากเหลือบ่ากว่าแรงจริง ๆ ก็ต้องว่ากันอีกทีแต่ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีหากเรื่องยังไม่จบน่าจะพูดคุยกันได้ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าโครงการเรือดำน้ำน่าจะผ่าน ครม. ก่อนสิ้นเดือน ก.ย.นี้เพราะกระทรวงกลาโหมทราบข้อจำกัดของเรา ส่วนที่ รมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ว่ายังมีปัญหาเรื่องงบประมาณและความโปร่งใสนั้น ตนไม่ว่าอะไรเพราะได้บอกข้อเท็จจริงไปหมดแล้วว่าเราโปร่งใสสะอาดบริสุทธิ์ คุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่าเราก็ตอบคำถามทุกอย่างไปแล้ว
เมื่อถามว่า หากคณะกรรมการฯ ที่รมว.กลาโหมตั้งขึ้นมาสรุปว่าอาจจะต้องจัด หาเรือดำน้ำจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่เยอรมนี พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า คณะกรรมการฯ หลายชุดได้พิจารณาทบทวนมาแล้วก็คิดเหมือนกันใครจะรู้ดีเท่าทหารเรือ ใครถามอะไรตอบได้หมดเราทำดีที่สุดแล้ว ผลจะออกมาอย่างไรตนคงไปว่าอะไรไม่ได้ประเทศชาติไม่ใช่ของตนคนเดียว
“ผมพยายามทำดีที่สุดทำให้กองทัพเรือให้ประเทศชาติและถ้าพูดว่าทบทวนเพื่อความโปร่งใสก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าบอกว่ามีความไม่โปร่งใสก็อย่ามาพูดเรื่องนี้กับผมดีกว่าลองไปถามพ่อค้าแม่ค้าอาวุธที่รู้จักกับผมทุกคนว่า ผบ.ทร. คนนี้เป็นอย่างไรก็จะรู้ว่าโปร่งใสแค่ไหนจะไปถามกี่บริษัทก็ถามเลยดูว่าเขาจะตอบอย่างไรเรื่องสตางค์แดงเดียวผมเคยเกี่ยวข้อง หรือเคยเคาะกะลาไหมใน 3 ปีที่ผมเป็น ผบ.ทร. แต่ถ้ายังสงสัยเรื่องความโปร่งใสผมก็ช่วยไม่ได้แล้ว” พล.ร.อ.กำธร กล่าว.