เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่รัฐสภา มีการเสวนา เรื่อง “ธรรมาภิบาลในการแต่งตั้งโยกย้าย”
จัดโดย คณะอนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมมาภิบาลในภาครัฐ ในคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ตรวจสอบการทุจริต และเสริมสร้างธรรมมาภิบาล วุฒิสภา เชิญ นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาคติ (สมช.) ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้ตรวจการแผ่นดิน อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และอดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) และนายปรีชา วัชราภัย อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) บรรยาย
นายถวิลกล่าวว่า หลังจากได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) แล้ว ตนเชื่อมั่นในกลไกที่มีอยู่ว่าจะสามารถพิทักษ์คุณธรรมได้
ในยุคปัจจุบันมิติด้านความมั่นคงได้เปลี่ยนไป เพราะเริ่มมีการแทรกแซงเกิดขึ้น ตนได้เห็นภาพคนที่แทรกเข้ามาในองค์กรแล้วไม่ได้ทำประโยชน์เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ทำให้เกิดการแตกความสามัคคีเกิดขึ้น เหล่านี้อาจเป็นเพราะคนบางกลุ่มบางพวกที่ไม่อาจมุ่งหมายในการเติบโตตามสายงานได้ ข้าราชการ สมช.เป็นพลเรือน แตกต่างจากคนเหล่านี้ เพราะไม่สามารถย้อนกลับไปอยู่กับกองทัพได้ กลายเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจของฝ่ายพลเรือน ไม่ทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเป็นหนึ่งในกระบวนการเหล่านี้หรือไม่ แต่มั่นใจว่าถึงแม้จะไม่มีการปรับย้ายตำแหน่งที่กระทบมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ตนจะยังเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องถูกแต่งตั้งโยกย้าย เพราะฝ่ายการเมืองพูดมาตลอดว่า เป็นเรื่องขอความโกรธแค้น แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
"สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมแทบไม่อยากเชื่อว่าเกิดขึ้น ผมไม่ได้สู้เพื่อกลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม แต่สู้เพื่อศักดิ์ศรีและความถูกต้อง ถ้าถูกรังแกพอทนได้ แต่ถ้ารังแกด้วยระบบราชการถือว่าทำร้ายประเทศชาติ ผมเชื่อในกฎแห่งกรรม ผมมีอายุราชการเหลือแค่ 3 ปี ผมคิดว่าจะได้เห็นผลของกฎแห่งกรรมนั้น" นายถวิลกล่าว