วันที่ 2 ก.ย. ที่ท่าอากาศยานพิษณุโลก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ เพื่อให้ตรวจสอบแถลงการณ์แถถลงการณ์กัมพูชาที่ระบุการเจรจา ระหว่างพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ว่า ดีครับ ตรวจสอบเลย ยืนยันว่างานที่รัฐบาลตนมาดูเป็นเป็นสิ่งที่มี เอ็มโอยู2544 และได้แขวนไว้ จากนั้นได้มอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไปดำเนินการและเป็นเรื่องที่ให้รัฐสภาเห็นชอบ แต่เกิดปัญหาข้อมูลที่ไม่ตรงกัน เลยต้องยุติไป โดยเฉพาะในช่วงที่กัมพูชาตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นที่ปรึกษา อีกทั้ง เอ็มโอยูฉบับดังกล่าว มีปัญหาเรื่องการขีดเส้นรุกแดนเข้ามา แต่คิดว่าทางที่ดี รัฐบาลต้องย้อนกลับไปดูตั้งแต่ปี 2544 ว่าเอ็มโอยูดังกล่าวมีที่มาอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตแถลงการณ์ของการปิโตรเลียมแห่งชาติกัมพูชา
ที่เปรียบเทียบระหว่างรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์กับรัฐบาลปัจจุบันและพูดเกี่ยวกับความผิดพลาดของรัฐบาลประชาธิปัตย์ สำหรับการเจรจาพื้นที่ทับซ้อทางทะเลรัฐบาลปัจจุบันต้องชี้แจงให้ชัดเจนเรื่องข้อมูลเขตแดนทั้งทางบกและทางทะเล ส่วนเรื่องการเจรจาลับในรัฐบาลตนนั้น นายสุเทพ ได้ชี้แจงแล้ว จนไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติ ไม่มีการเอื้อประโยชน์
เมื่อถามว่ารัฐบาลตั้งข้อสังเกตว่าที่รัฐบาลปชป.ไม่ยกเลิกเอ็มโอยู2544 ให้มีผลสมบูรณ์ เพราะต้องการผลประโยชน์จากเอ็มโอยูฉบับดังกล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การยกเลิกต้องให้ที่ปรัชุมสภาเห็นชอบ และหากรอบใหม่มาแทน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้นกำลังศึกษากรอบการดำเนินการ โดยต้องไม่กระทบต่ออธิปไตยทั้งทางบกและทางทะเล ซึ่งขณะนั้นยังไม่พร้อม และถ้าเราหวังประโยชน์แล้วจะแขวนเอ็มโอยูไว้ทำไม ไม่อยากให้ทำเป็นการเมือง