วันที่ 26 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาลและการจัดทำแผนการบริหาราชการแผ่นดินต่อหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงาน โดยได้อธิบายถึงนโยบายของรัฐบาลทั้งหมดที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
สำหรับนโยบายเร่งด่วน เช่น การสร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ การเยียวยาและฟื้นฟูประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางด้านการเมือง
ตั้งแต่ช่วงปลายของการใช้รัฐธรรมนูญปี 40 ซึ่งเป็นการเยียวยาทั้งภาคประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ และผู้ประกอบการ และการเยียวยาเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ การสนับสนุนการตรวจสอบและค้นหาความจริงของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง (คอป.) ให้เป็นไปอย่างอิสระ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มีความอิสระ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของประชาชน สร้างรายได้ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ทั้งการขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวัน และรายได้ปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาท ลดราคาน้ำมัน การลดภาษีนิติบุคคล เป็นต้น
ส่วนนโยบายที่ต้องทำภายใน 4 ปี แบ่งเป็น 7 เรื่อง ได้แก่
1.นโยบายความมั่นคง ซึ่งอยากเห็นการเทิดทูลและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และอยากเห็นกองทัพเพื่อให้เป็นที่พึ่งของประชาชน เรื่องการกำจัดปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมให้หมดไป
2.นโยบายเศรษฐกิจ ซึ่งอยากเห็นการลงทุนทั้งภาคการผลิต บริการ และภาคเกษตร
3.สังคมและคุณภาพอาชีพ โดยต้องเน้นการวางรากฐานเพื่อให้เด็กแข่งขันกับอาเซียนได้
4.นโยบายด้านที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
5.นโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
6.นโยบายการต่างประเทศ และเศรษฐกิจต่างประเทศ สร้างความสัมพันธ์กับนานาประเทศ และประเทศไทยจะอยู่ในฐานะผู้นำอาเซียน
7.การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี อย่างมืออาชีพและยึดหลักนิติธรรม ธรรมาภิบาล และความโปร่งใส
น.ส.ยิ่งลักษณ์ย้ำว่ารัฐบาลนี้เราไม่แก้แค้น อยากเห็นความสามัคคีปรองดองเกิดขึ้น และอยากเห็นการทำงานที่ซี่อสัตย์ สุจริต และโปร่งใส
เพราะวันนี้ตัวเลขที่น่ากลัว และถือเป็นโอกาสสำหรับพวกเราในการกู้ชื่อเสียงนี้ คือดัชนีความโปร่งใสของประเทศไทยในปี 53 เราอยู่เพียง 3.5 จากคะแนน 10 เราคงต้องมารณรงค์แก้ไขเรื่องนี้เป็นการเร่งด่วน วันนี้เราคือทีมงานเดียวกัน ข้าราชการทุกคนถือเป็นกำลังสำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนงานและนโยบายต่าง ๆ ตนอยากเห็นการทำงานที่เป็นทีมเวิร์กเดียวกัน เพราะโดยรัฐบาลลำพังคงทำงานไม่สำเร็จถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน และทุกภาคส่วน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากปีงบประมาณเรายังไม่ได้ทำ จึงมีงานที่ต้องเร่งใน 2 ส่วนคือ เตรียมงานนโยบายของใหม่
ขณะเดียวกัน งบประมาณ และแผนบริหารราชการแผ่นดิน ตนขอความร่วมมือจากรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการใน 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.เร่งการจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) 2. กลไกการทำงานของรัฐบาล ซึ่งต้องบูรณาการงานร่วมกัน ตนรู้สึกตกใจที่ทราบว่าวันนี้เรามีคณะกรรมการชุดต่าง ๆทั้งหมดถึง 282 คณะ ถือว่าเยอะมาก เราเสียเวลากับการประชุมคณะกรรมการต่างๆ จึงขอให้หัวหน้าส่วนราชการได้ทบทวนและหารือกับรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวง ตรงไหนปรับลดได้ก็ให้ปรับลด เพราะเราเน้นประสิทธิภาพมากกว่าปริมาณ