ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.35 น.วันที่ 25 สิงหาคม นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ปิดอภิปรายการแถลงนโยบาลรัฐบาล จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณสมาชิก ใช้เวลา 15 นาที ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังคงก้มอ่านโพยเป็นระยะ
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตลอดการอภิปราย 2 วันครึ่งที่ผ่านมา มีประเด็นที่ตนได้รับฟังข้อคิดเห็นจากสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ รวมทั้งข้อห่วงใยท้วงติง
กราบเรียนว่า ตนและคณะรัฐมนตรี( ครม.)ไม่เคยละเลยจากข้อห่วงใยของสมาชิก ซึ่งมีข้อจำเป็นต้องตอบต่อสังคมเพื่อความกระจ่าง ประการแรก เจตนารมณ์ในการจัดทำนโยบายของรัฐบาล นโยบายที่เราบรรจุไว้เป็นนโยบายที่ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยความซื่อสัตย์และจงรักภักดี นอกจากนี้ เรายังปกป้องหวงแหนจงรักภักดีต่อสถาบันที่เคารพ และนโยบายของรัฐบาลจะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องเรียนว่าทุกนโยบายที่เสนอ ไม่ได้เป็นนโยบายที่บิดเบือนหลอกลวงเลี่ยงบาลีอย่างที่ท่านกล่าว
เพราะไม่มีเหตุผลอันใดที่รัฐบาลที่มาจากประชาชนจะไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชน เราต้องทำตามที่เราได้เรียนไว้กับพี่น้องประชาชน แต่ต้องกราบเรียนว่า การทำนโยบายและนำเสนอในการหาเสียงนั้นเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้เรียนไว้กับประชาชน และเรามุ่งผลลัพธ์และผลนโยบายต่อประชาชน เราไม่ได้มุ่งที่การตีความตามลายลักษณ์อักษร เรามุ่งที่ผลงานและเรายังไม่ได้เข้าไปทำงาน แน่นอนการเข้าไปทำงานของรัฐบาลมีอุปสรรคแน่นอน แต่ตนไม่ได้ดื้อรั้น เราพร้อมรับข้อคิดเห็นข้อติติง ถ้าอยู่บนหลักการที่ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด นี่คือสิ่งที่ตนเอามาใส่ใจ
"ด้านความปรองดอง ดิฉันอยากเห็นความปรองดองสมานฉันท์เกิดขึ้นในประเทศไทย ดิฉันยินดีและให้ความร่วมมือกับสมาชิก ดิฉันและรัฐบาลได้มอบให้ คอป. ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ตั้งในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ดิฉันแสดงเจตนารมณ์ว่า ดิฉันให้อิสระไม่ยุ่งเกี่ยว เพื่อให้คณะกรรมการทำงานได้อย่างอิสระเต็มที่ การเยียวยาจะมีการเยียวยาเฉพาะส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการเมือง และผลกระทบจากภาคใต้ ที่กระทบจากการเมือง จะเยียวยาทุกฝ่าย เพราะการเยียวยาเป็นจุดเริ่มต้นของความปรองดอง ทั้งประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ และทุกฝ่าย รัฐบาลอยากเห็นการเยียวยาเกิดขึ้นในประเทศไทย หน่วยงานไหนก็ได้ที่อิสระและเป็นที่ยอมรับ รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ส่วนความกังวลเรื่องการทำงานของดิฉัน เรียนสมาชิกไว้ว่า การทำงานของดิฉัน วันนี้ยังไม่ได้เริ่มทำงายเลยค่ะ ขอเวลาและโอกาสพิสูจน์ว่าดิฉันทำงานเพื่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนอย่างไร และไม่ต้องห่วงข้อห่วงใยต่างๆ ดิฉันน้อมรับและจะไม่ทำให้เป็นห่วงในเรื่องนี้" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า สำหรับกรณีการออกวีซ่าของประเทศญี่ปุ่น คือว่า ขณะนั้นตนยังไม่มีอำนาจตามกฎหมาย และการอนุมัติให้วีซ่าเป็นเอกสิทธิ์ของประเทศญี่ปุ่น
"ดิฉันขอยืนยันอีกครั้งว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะผลักดันเดินหน้าทุกนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน และถือโอกาสนี้ ดิฉันและ ครม.ขอขอบคุณทุกความเห็น ที่ท่านให้ความเป็นห่วงและแนะนำแก่ ครม. เป็นข้อคิดในการทำงาน ดิฉันน้อมรับทุกคำแนะนำ ขอเพียงแต่ท่านได้ให้โอกาสดิฉันได้ทำงานเถอะค่ะ และขอโอกาสประชาชน เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะการทำงานเหมือนทำข้อสอบ คงไม่มีใครบอกว่าจะทำข้อสอบถูกทุกข้อร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกวิชา แต่ฉันมั่นใจค่ะ ว่าดิฉันจะสอบผ่านทุกวิชา" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมืออย่างกึกก้องของ ส.ส.เพื่อไทย
จากนั้นเวลา 16.50 น. นายสมศักดิ์จึงสั่งปิดประชุม เป็นอันเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ต่อรัฐสภา