ที่รัฐสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมโฉมหน้า ครม. “ยิ่งลักษณ์ 1” และเสียงวิพากวิจารณ์จากสังคม ว่า เมื่อถามว่าคิดอย่างไรที่เริ่มต้นจากการถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าหน้าตาของครม. ขี้เหร่กว่าหน้าตาของนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อถามถึงเหตผลการเลือกนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็น รมว.ต่างประเทศ
ในการพูดคุยกันมาก็พยายามพินิจพิจารณาอย่างดี ทั้งนี้ ครม.ชุดนี้จะเป็นส่วนหนึ่ง นอกจากนั้นก็จะมีการขับเคลื่อนจากทางสภา และคณะที่ปรึกษาอีกจำนวนมาก ตรงนี้จะเป็นองค์ประกอบทั้งหมดในการทำงานขับเคลื่อนนโยบาย
กล่าวย้อนถามว่า “จริงหรือคะ อยากขอให้ประชาชนให้โอกาสกับการทำหน้าที่ของ ครม.เพราะเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนที่ได้รับการคัดเลือกมีความตั้งใจที่อยากจะมารับใช้ประชาชน และอยากขับเคลื่อนในนโยบายต่างๆ”
เมื่อถามว่าคิดว่าการวางตัวบุคคลากรเหมาะสมกับเนื้องานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอใช้คำว่าได้พิจารณาอย่างเต็มที่ ความจริงแล้วก็มีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถหลายคน และเราก็มองจากปัจจัยหลายๆ อย่าง อย่าดูแค่เฉพาะตัวบุคคลแต่อยากให้ดูเป็นองคาพยพรวม
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นายสุรพงษ์ เป็นผู้มีประสบการณ์ เป็นส.ส.มาหลายสมัย เคยทำงานในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ในรูปแบบร่วมกับข้าราชการต่างๆ นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ในการทำงานด้านของบริษัทเอกชนในระดับประเทศ ก็เชื่อว่าจะมีส่วนเพราะจะมีความเข้าใจทางด้านการค้าด้วย ส่วนด้านความสามารถในการประสานงานด้านการทูตนั้นก็เชื่อว่ากระทรวงการต่างประเทศก็คงจะช่วยทำหน้าที่นี้ช่วยอยู่แล้ว
‘ปู’ไฟแรงนัดครม.ถกนัดแรก 11 ส.ค. ขอโอกาสทำงาน6เดือนก่อนวิจารณ์
เมื่อถามถึงเสียงติงจากรองประธานสภาอุตสาหกรรมที่ห่วงกรณีนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล มาเป็น รมว.คลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีแล้วนั้น ทางครม.ได้นัดหมายพร้อมกันเวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อถ่ายภาพร่วมกันก่อนที่จะเดินทางไปเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ในเวลา 17.30 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช ทั้งนี้ในช่วงเช้าทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ไว้สำหรับถ่ายภาพ นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ EOD หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาลด้วย
ก็จะไปเน้นเรื่องของตลาดทุนมากกว่าเรื่องเศรษฐกิจมหภาค นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ทางด้านเศรษฐกิจนั้นก็จะเป็นเรื่องของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ รมว.พาณิชย์ ที่จะดูภาพรวม ซึ่งจะเชิญที่ปรึกษาเข้ามาช่วยงานเพิ่มเติม เราเองไม่ได้มองเรื่องตลาดทุนอย่างเดียว แต่มองทั้งภาคอุตสาหกรรมต่างๆด้วย
เมื่อถามว่าจะให้เวลารัฐมนตรีทำงานแค่ไหนจึงจะประเมินผลการทำหน้าที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างน้อยก็ต้องผ่านไปสัก 6 เดือน
เพราะการทำงานด้านการบริหารประเทศเป็นเรื่องใหญ่ก็ต้องต้องทำความเข้าใจ รวมถึงเวลาการขับเคลื่อนนโยบาย อย่างวันนี้ เมื่อ ครม.ได้เข้าเฝ้าฯเพื่อถวายสัตย์ปฏิญานตนในวันนี้แล้วก็คงจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 15 วัน ที่จะมีการแถลงนโยบายถึงจะเริ่มทำงานได้
ทำบัตรประจำตัวนายกรัฐมนตรี และครม. พร้อมตรวจสอบความถูกต้องของชื่อ นามสกุล ตำแหน่งทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าไว้สำหรับถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก แต่ถ้าเกิดฝนตกก็จะย้ายไปถ่ายภาพร่วมกันภายในตึกสันติไมตรีหลังนอก
ขณะที่เจ้าหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยได้เดินมาจัดห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี บริเวณชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้าซึ่งส่วนใหญ่อุปกรณ์สำนักงานที่ทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้จัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และไม่ได้มีการเพิ่มเติมอะไรเป็นพิเศษ ส่วนตึกบัญชาการที่เป็นสถานที่ทำงานของรองนายกรัฐมนตรี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาและคณะทำงานนั้นได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยเช่นเดียวกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมครม.นัดแรกในวันที่ 11 ส.ค. เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล