มาร์ค แถลงอำลาเก้าอี้นายกฯ ฝากรัฐบาลใหม่สานงานต่อ

"รายงานสถานะทางเศรษฐกิจและสังค​มของประเทศ เพื่อส่งมอบงานบริหารประเทศไทย"​


โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย


4 สิงหาคม 2554


พี่น้องประชาชนที่เคารพรักครับ ขณะนี้ได้มีการเปิดสมัยประชุมของสภาผู้แทนราษฎร และได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว และในเร็ววันนี้ก็จะมีการประชุมสภาฯ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อที่จะเข้ามารับตำแหน่ง เพื่อที่จะได้จัดตั้งคณะรัฐมนตรีและได้มีการบริหารราชการแผ่นดิน ในนามของรัฐบาลใหม่ต่อไป


ผมขอถือโอกาสนี้ได้กล่าวกับพี่น้องประชาชนครับว่า รัฐบาลปัจจุบันได้พยายามอย่างเต็มความสามารถในการให้การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรและการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตลอดจนการรับรองผลการเลือกตั้งผ่านไปอย่างเรียบร้อยแล้ว ในชั้นนี้ในช่วงของระยะเวลาการเปลี่ยนผ่าน ก็ได้มีการในการส่งมอบงานเพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่เข้าบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งครับ มีงานในช่วงของการเปลี่ยนผ่านที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพี่น้องประชาชน ตั้งแต่การเตรียมการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งรัฐบาลได้มีการตั้งคณะกรรมการและมีการเตรียมงานไว้ชั้นหนึ่งแล้ว และก็จะให้รัฐบาลชุดใหม่ได้สามารถเข้ามาสานต่อเพื่อจัดงานพระราชพิธีได้อย่างสมพระเกียรติ


นอกจากนั้น ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านในขณะนี้ก็เกิดภัยพิบัติ อุทกภัยในหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นในช่วงของภาคเหนือตอนล่าง และในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งรัฐบาลก็ได้เตรียมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อที่จะให้มีการติดตามเฝ้าระวังในช่วงของการเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลในเร็ววันนี้ ซึ่งงานทั้งหลายเหล่านี้ ขอยืนยันให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนครับว่า จะไม่สะดุดหยุดลงในช่วงของการมีการเปลี่ยนแปลงและส่งมอบการบริหารราชการแผ่นดิน


สำหรับการบริหารราชการของรัฐบาลชุดใหม่นั้น ก็ย่อมเป็นสิทธิ์ของรัฐบาลใหม่ ในการที่จะกำหนดนโยบายต่าง ๆ ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและบ้านเมือง อย่างไรก็ตามผมขอถือโอกาสนี้ในการเรียนกับพี่น้องประชาชนให้เกิดความมั่นใจครับว่า ในการส่งมอบการบริหารราชการแผ่นดินในครั้งนี้สถานะทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองของประเทศนั้น เอื้อต่อการที่จะให้รัฐบาลใหม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ซึ่งเป็นปัญหาของพี่น้องประชาชน และประเทศชาติได้เป็นอย่างดี


โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนที่สุดว่าขณะนี้พี่น้องประชาชนก็ได้สะท้อนมาตลอดเวลาว่า มีความห่วงใยในเรื่องของปัญหาของแพง ค่าครองชีพ ประกอบกับการที่สถานการณ์เศรษฐกิจในโลก ไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐอเมริกา ในยุโรป ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก รวมไปจนถึงความผันผวนในเรื่องของราคาน้ำมันและเรื่องอื่นๆ


สิ่งที่ผมอยากจะให้พี่น้องประชาชนได้สบายใจก็คือว่า ฐานะทางการเงิน การคลัง และฐานะของประเทศในขณะนี้มีความมั่นคงอย่างมากทางด้านเศรษฐกิจ และก็จะทำให้รัฐบาลใหม่สามารถที่จะมีความยืดหยุ่น ในการที่จะปรับนโยบายทางด้านการเงินการคลังเพื่อรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ฐานะของประเทศนั้น ขณะนี้เงินสำรองระหว่างประเทศของประเทศไทยนั้นมีสูงถึง 180,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สูงมาก แล้วก็เพิ่มขึ้นจากการที่รัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินถึง 70,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และก็เป็นเงินสำรองซึ่งอยู่ในอันดับที่สูงเป็นอันดับที่ 13 ในโลก ซึ่งก็หมายความว่า ฐานะของประเทศอยู่ในฐานะที่มีความเข้มแข็งอย่างยิ่งในเรื่องของการมีเงินสำรอง ซึ่งอันนี้ก็เป็นผลมาจากการที่การส่งออกก็ดี การท่องเที่ยว หรือการหารายได้เข้าประเทศก็ดี มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แข็งแกร่ง


สำหรับฐานะการคลังในประเทศก็เช่นเดียวกัน จากการที่เรามีความจำเป็นในการที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีการกู้ยืมเงิน แต่รัฐบาลก็ได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะมีการนำงบประมาณกลับเข้าสู่ความสมดุลได้ในระยะเวลา 4 ปีข้างหน้า ก็ปรากฎว่าขณะนี้ หลังจากที่ปีงบประมาณปัจจุบันผ่านพ้นไปเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ไตรมาส เรามีเงินที่จัดเก็บรายได้เพิ่มเกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ในงบประมาณถึงเกือบ 200,000 ล้านบาท ซึ่งก็จะทำให้ฐานะการคลังนั้นมีความมั่นคงและก็จะทำให้การจัดงบประมาณสำหรับปีงบประมาณต่อ ๆ ไปทำได้คล่องตัวยิ่งขึ้น และก็น่าจะอยู่ในวิสัยที่สามารถกลับเข้าสู่ภาวะการสมดุลได้


นอกจากนั้นตัวเงินคงคลังเองปัจจุบันนั้น ก็มีสูงถึง 300,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในวันที่ผมเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งอยู่ที่ประมาณเพียง 50,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พี่น้องประชาชนและรัฐบาลใหม่สามารถที่จะสบายใจได้ว่ามีความยืนหยุ่นในเรื่องของการที่จะบริหารงานทางด้านการเงินการคลัง


นอกจากนั้นครับ ในภาพรวมของตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นความมั่นคงนั้น หนี้สาธารณะของประเทศเมื่อคิดเป็นสัดส่วนกับรายได้ประชาชาติก็ลดลงอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ประมาณร้อยละ 40 หรือต่ำกว่า ซึ่งก็ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ต่ำมากเมื่อเทียบเคียงกับประเทศต่าง ๆ ในโลก ตรงนี้ก็เป็นเครื่องยืนยันเช่นเดียวกันว่า เรายังมีความยืนหยุ่นในการที่จะแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี


ส่วนภาวะเศรษฐกิจทางด้านอื่น ๆ นั้น ภาวะการจ้างงานก็อยู่ในฐานะที่เข้มแข็งเป็นพิเศษ อัตราการว่างงานก็ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนในเรื่องของการมีเครื่องมือ กลไกต่าง ๆ ที่จะรองรับกับความผันผวน ของเรื่องของราคาน้ำมันและต้นทุนต่าง ๆ นั้น ก็ขอเรียนว่า ฐานะของกองทุนน้ำมันในปัจจุบัน ซึ่งถ้ามีการคงนโยบายในการที่จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ก็จะทำให้มีเงินไหลเข้ากองทุนน้ำมันอย่างต่อเนื่อง และกองทุนน้ำมันนั้นก็จะอยู่ในภาวะซึ่งไม่ติดลบในระยะเวลาประมาณ 2 เดือนข้างหน้า


ทั้งหมดนี้จึงเป็นการยืนยันเพื่อให้เกิดความสบายใจครับว่า วันนี้รัฐบาลใหม่จะมีความยืดหยุ่น มีเครื่องมือ มีกลไกทั้งทางด้านการเงินการคลัง ที่สามารถที่จะเลือกในการที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี


โดยสรุปครับ ถ้าเปรียบเทียบประเทศ เศรษฐกิจ หรือสังคมไทย เป็นบ้านของเรา ผมเคยบอกว่า วันที่ผมเข้ามารับตำแหน่งนั้น เสมือนกับว่ามีวิกฤตการณ์ เหมือนกับบ้านที่ไฟไหม้อยู่ บัดนี้เราก็ได้ดับไฟเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นการดูแลคนในบ้าน รวมไปถึงการปรับโครงสร้าง เพื่อให้บ้านของเรามีความแข็งแกร่งขึ้น ก็มีหลายเรื่องซึ่งมีความคืบหน้าไปเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลคนในบ้าน ก็คือเรื่องของการช่วยเหลือ ดูแล และการวางระบบสวัสดิการ ซึ่งรัฐบาลก็เคยประกาศเอาไว้ว่า ภายในปี 2559 เราจะมีระบบสวัสดิการแบบถ้วนหน้า เป็นระบบซึ่งพี่น้องประชาชนจะมีทั้งส่วนร่วมและจะได้ประโยชน์กันอย่างทั่วถึง


ดังจะเห็นได้ว่านโยบายในเรื่องของการเรียนฟรี รักษาฟรี การดูแลคนกลุ่มต่าง ๆ เช่น คนพิการ ผู้สูงอายุ ก็ได้มีการดำเนินการเพื่อที่จะให้สิทธิขั้นพื้นฐานต่าง ๆ แก่พี่น้องประชาชนอย่างครบถ้วน ถ้วนหน้า ไปเรียบร้อยแล้ว


อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งเป็นปัญหาในเชิงโครงสร้าง ก็ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาต่อไป เราได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระหลายคณะกรรมการไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการปฏิรูป คณะกรรมการสมัชชาการปฏิรูป ซึ่งได้มีข้อเสนอมากมายครับ แล้วก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมไปจนถึงการมีกฎหมาย หรือมาตรการต่าง ๆ ซึ่งค้างอยู่ ซึ่งผมก็หวังว่า รัฐบาลชุดใหม่นั้นจะเข้ามาพิจารณามาตรการ กฎหมาย และข้อเสนอแนะเหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อนำไปสู่การมีสังคมที่มีความเป็นธรรมมากขึ้นต่อไป และมีสวัสดิการสำหรับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน


สำหรับงานทางด้านการต่างประเทศ และความมั่นคงก็เช่นเดียวกันครับ ฐานะของประเทศไทยหลังจากที่เราประสบกับปัญหาวิกฤติต่าง ๆ มากมายในขณะนี้ ก็เป็นที่ชัดเจนว่า สังคมโลกนั้นมีความมั่นใจในประเทศไทยมากขึ้น ไม่เพียงแต่การที่เราสามารถที่จะจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่การดำเนินการทำงานหลายประการก็จะนำไปสู่การที่ประเทศไทยจะได้รับโอกาสการเป็นเจ้าภาพในงานระดับโลก หรืองานระดับระหว่างประเทศสำคัญ ๆ ทั้งเวทีเศรษฐกิจ ทั้งในเรื่องของการกีฬา ซึ่งผมก็หวังว่ารัฐบาลชุดใหม่นั้นจะได้สานต่อ แล้วก็สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพของงานระดับโลก


ส่วนความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านนั้น ก็เป็นไปด้วยความราบรื่น ยกเว้นในกรณีที่เรามีข้อพิพาทกับทางกัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้ผมก็คิดว่า พี่น้องประชาชนคนไทยก็คงเป็นหนึ่งเดียวในการที่เรามีความจำเป็นที่จะต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องพร้อมในการที่จะต้องปกป้องอธิปไตย และสิทธิของประเทศของเรา โดยเรื่องที่ยังคั่งค้างอยู่ก็เป็นเรื่องที่ทางกัมพูชานั้นได้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลโลก ในกรณีของการพิพาทสืบเนื่องมาจากการวินิจฉัยคดีของศาลโลก เมื่อปี 2505 บัดนี้รัฐบาล ซึ่งได้ไปต่อสู้ในเรื่องของการที่ทางกัมพูชาขอคำสั่งมาตรการชั่วคราวให้ประเทศไทยถอนทหารเพียงฝ่ายเดียว ก็ได้มีการต่อสู้ไปจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และศาลโลกก็ได้มีคำสั่งชั่วคราวออกมาแล้ว ก็เป็นเรื่องที่จะต้องมีการสานต่อ เพื่อดูแลรักษาผลประโยชน์ของประเทศต่อไป


ที่สำคัญที่สุดก็คือ ตัวคดีหลักในการที่กัมพูชาขอตีความคำวินิจฉัยของศาลโลกเมื่อปี 2505 ยังเป็นกระบวนการที่เพิ่งเริ่มต้น ซึ่งตรงนี้รัฐบาลได้เตรียมข้อมูล ข้อกฎหมายเอาไว้ และก็หวังว่ารัฐบาลชุดต่อไปก็จะได้ดำเนินการต่อสู้คดีให้สามารถที่จะปกป้อง พิทักษ์ รักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยได้อย่างสมบูรณ์


นอกจากปัญหาในเรื่องของความสัมพันธ์ ความมั่นคงแล้ว ปัญหาภายในประเทศบางปัญหาที่กระทบกับความมั่นคงก็เช่นเดียวกัน จำเป็นที่จะต้องมีการสานต่อ เช่นปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเราได้เพิ่งมีกฎหมายใหม่ที่มาปรับโครงสร้างของ ศอ.บต. และแนวทางการแก้ปัญหาในขณะนี้ก็เป็นที่ยอมรับไม่เพียงเฉพาะในพื้นที่ ในประเทศ แต่ว่าในระดับระหว่างประเทศด้วย แต่แน่นอนความรุนแรงต่าง ๆ ยังคงมีอยู่ซึ่งก็เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลใหม่ก็คงจะได้มีการสานต่อแล้วก็สามารถดำเนินทิศทางของนโยบายเพื่อนำไปสู่ความสงบสุขต่อไป และผมมั่นใจว่าสมาชิกของรัฐสภาในปัญหาที่เป็นเรื่องของความมั่นคง การต่างประเทศ หรือความไม่สงบภายในประเทศก็ดี รวมทั้งปัญหาอื่น ๆ ซึ่งกระทบกระเทือนต่อพี่น้องประชาชนคนไทยนั้น ก็พร้อมใจที่จะร่วมมือแล้วก็ร่วมใจกันในการที่จะให้การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ผ่านไปได้อย่างลุล่วงด้วยดี


ความร่วมมือร่วมใจของสมาชิกรัฐสภาของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่จะส่งต่อไปยังรัฐบาลชุดใหม่ก็คงจะครอบคลุมถึงปัญหาอื่น ๆ อีก เช่นปัญหายาเสพติด หรือปัญหาสังคม ที่เป็นปัญหาเรื้อรัง ที่พี่น้องประชาชนจะต้องเผชิญอยู่


แต่ที่สำคัญที่สุดครับ การที่เราได้จัดให้มีการเลือกตั้ง ผ่านกระบวนการของรัฐสภา และเป็นก้าวต่อไปของระบอบประชาธิปไตยของไทยนั้น ก็เพื่อให้เกิดความปรองดองในบ้านเมืองในประเทศชาติของเรา


ผมหวังเป็นอย่างยิ่งครับว่า การทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ การทำงานของรัฐสภา ก็จะได้ยึดถือในเรื่องของการที่จะนำความสมัครสมานสามัคคีมาสู่ปวงชนชาวไทย รัฐบาลชุดปัจจุบัน ได้มีกระบวนการของการค้นหาความจริงจากเหตุการณ์ความขัดแย้งในอดีต โดยมีคณะกรรมการอิสระ ได้ให้ความเป็นอิสระต่อคณะกรรมการเหล่านี้ รวมทั้งได้ให้ความเคารพสูงสุดกับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะต้องเป็นที่สิ้นสุดของปัญหาที่เป็นข้อโต้แย้งต่าง ๆ ในทางกฎหมาย


ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลชุดใหม่ก็จะได้สานต่อในแนวทางนี้ เพื่อนำไปสู่ความจริง ความยุติธรรม นำเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองนั้นไปว่ากันในกระบวนการของรัฐสภา และยกสถาบันต่างๆ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองนั้น อยู่เหนือความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมไปจนถึงสถาบันอื่น ๆ ซึ่งมีภาระหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรต่าง ๆ ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหากเราทำได้เช่นนี้ครับ การเปลี่ยนผ่านไปสู่การบริหารงานของรัฐบาลใหม่ก็จะสามารถนำไปสู่การยุติความขัดแย้ง ซึ่งเป็นอุปสรรคปัญหาของการแก้ไขปัญหาของประเทศและเป็นความทุกข์ของพี่น้องประชาชนตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา


ผมขอถือโอกาสนี้ กราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ ข้าราชการทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง ที่ได้ช่วยให้การบริหารราชการแผ่นดินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นำพาประเทศชาติฟันฝ่าวิกฤติต่าง ๆ ซึ่งแม้ว่าจะมีบางปัญหาซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ หรือไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์ แต่ผมก็ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่ทำไว้นั้นก็จะเป็นฐานในการที่จะให้รัฐบาลชุดต่อไปเข้ามาสานต่อเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนทุกคนต่อไป ขอขอบคุณครับ


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์