วันที่ 25 ก.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราชพรรคประชาธิปัตย์
แถลงกรณีข่าวการพูดคุยของส.ส.ภาคใต้ที่บ้านดอนรัก อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเรื่องเลขาธิการพรรคคนใหม่ด้วย ว่า เป็นเรื่องของส.ส.ภาคใต้ที่ต้องการไปขอบคุณนายสุเทพ ที่เป็นเลขาฯ และทำงานให้พื้นที่ภาคใต้อย่างหนักและนำพรรคประสบความสำเร็จ ทำให้ภาคใต้ได้50 ที่นั่งจากทั้งหมด 53 ที่นั่ง ไม่มีนัยยะทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
นายเทพไท กล่าวว่า นายสุเทพไม่ได้เป็นคนนัดพบ การพบกันครั้งนี้ไม่ได้มีการพูดถึงตัวบุคคลและล็อกสเป๊กเลขาฯ คนใหม่ รวมทั้งตำแหน่งใดๆ
และไม่ได้เป็นการใช้ระบบชี้นิ้วสั่งเพื่อให้ใครมาเป็น การหารือนอกรอบส.ส.ใต้ทุกคนยืนยันว่าเลขาฯ ไม่ใช่ตำแหน่งของส.ส.ใต้ แต่เป็นตำแหน่งของพรรคที่สมาชิกทุกภูมิภาคสามารถดำรงตำแหน่งนี้ได้ตามความเหมาะสม ยืนยันส.ส.ใต้ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับผู้ดำรงตำแหน่งเลขาฯ ถ้าหัวหน้าเสนอชื่อให้ที่ประชุมเลือก ส.ส.ใต้จะยอมรับมติที่ประชุมในทุกตำแหน่ง
ด้าน น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ยื่นฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานครซึ่งเกี่ยวพันกับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแคนดิเดตในตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปปัตย์คนใหม่ว่า คงจะไม่กระทบอะไรกับกระบวนการคัดเลือกเลขาฯ และพรรคก็สนับสนุนการตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีการใช้เอกสิทธิ์พิเศษส.ส.ในการคุ้มครองแต่อย่างใด
เมื่อถามถึงครั้งนั้นมีการลาออกจากการเป็นผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้จะมีการรับผิดชอบอย่างไร
น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ครั้งนั้นถือเป็นการดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเป็นการตัดสินใจของนายอภิรักษ์เอง ที่ต้องการวางบรรทัดฐานทางการเมือง ในฐานะที่คดีซึ่งมีการสอบสวนในขณะนั้นเกี่ยวข้องต่อการดำรงตำแหน่งผู้บริหารองค์กร ในฐานะที่เป็นผู้ว่าฯกทม. แต่คงไม่เกี่ยวกับการรับตำแหน่งเป็นผู้บริหารภายในพรรค เพราะพรรคไม่เกี่ยวข้องกับคดี และบรรทัดฐานภายในพรรคประชาธิปัตย์คือต้องให้ที่ประชุมมั่นใจว่าจะไม่มีส่วนการกำหนดประเด็นของรูปคดี