ที่พรรคเพื่อไทย วันที่ 20 ก.ค.54 เวลา 11.35 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช.แถลงถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่ประกาศรับรอง สถานภาพ ส.ส. ของผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำ นปช. หรือเคยเข้าร่วมกับคนเสื้อแดง
หากพิจารณาตามคำสั่งที่ 212/2554 ของ กกต.ที่ลงนามเมื่อวันที่ 14 ก.ค.54 โดยนายอภิชาต ประธานกกต. ที่ให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน กรณีคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส.ที่ถูกร้องคัดค้านว่า ขาดคุณสมบัติ การเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 10 (5) หรือไม่นั้น หากดูรายชื่อทั้ง 12 คนแล้ว 7 ใน 12 คน คือ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย , นายพายัพ ปั้นเกตุ นายวิเชียร ขาวขำ นายการุณ โหสกุล จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ชัยศรีษะ นายวรชัย เหมะ และนายสถาพร มณีรัตน์ จะเป็นว่า ทั้ง 7 คน ไม่เคยถูกคุมขังตามคำสั่งศาล หรือหมายศาลใดๆ
ทั้งนี้ บางคนไม่ถูกดำเนินคดี แต่ กกต.เอามารวมเป็นเรื่องเดียวกัน แล้วแขวนไว้ทั้งหมด ทั้งๆที่ กกต.ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวนก็ได้เพียงแค่แหกตาดูความจริงก็จะทราบว่า คนเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย พ.อ.อภิวันท์ นั้น เป็นรองประธานสภาจนยุบสภา นายวิเชียร นายการุณ และนายสถาพร ก็เป็น ส.ส.จนยุบสภา ดังนั้นจึงมีคำถามว่า กกต.ใช้มาตรฐานอย่างไรในการปฏิบัติหน้าที่
"คนอย่างเราขยับอะไรทางการเมือง ก็จะมีแรงเสียดทาน จึงทำทุกอย่างอย่างรอบคอบ ครบถ้วนและชัดเจน หรือ กกต. มีเจตนาที่จะไม่เข้าใจหรืออย่างไร เพราะด้วยหลักฐานที่ชัดเจนเช่นนี้ กกต. ไม่น่าจะมีเหตุมาอ้าง ให้ต้องตรวจสอบจนยืดเยื้อยาวนานออกไปอีกและไม่ใช่ว่า เป็นคนเสื้อแดง แล้ว กกต.ต้องรับรอง แต่ กกต. ต้องให้ความเป็นธรรม กับผู้สมัครทุกพรรคที่มีหลักฐานชัดเจนด้วย บ้านเมืองที่มีปัญหา 4-5 ปี ก็เพราะกติกา ไม่เป็นกติกา ไม่ใช่หรือ การตัดสินใจของประชาชน เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้ กกต.ยอมรับ เรียนรู้ และเคารพพลังของประชาชนบ้างเลยหรือ ยืนยันว่า เราไม่ได้กดดัน กกต. แต่เป็น กกต.ที่กำลังกดดันประชาชน เพราะสิ่งที่กกต.ทำ ไม่ชอบด้วยข้อเท็จจริงและหลักเหตุผล และให้ประชาชนยอมรับได้อย่างไร วันนี้ ประชาชนจำนวนมากไม่สบายใจ กลัวว่าพลังที่มองไม่เห็นกำลังจะมาแทรกแซง กกต. เพื่อล้มการเลือกตั้งอีกหรืออย่างไร วันนี้ พวกตนมีหลักฐานข้อมูล ข้อเท็จจริงพร้อมจะชี้แจงกับกกต. จึงมั่นใจว่าจะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรมจากกกต.
ดังนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนใช้ความอดทน อยู่ด้วยความเรียบร้อย และสงบ ตนจะเอาความจริงมาเผชิญหน้ากับ กกต.และจะเอาหลักฐานมาเผชิญกับการทำงานของ กกต." นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ว่าวันที่ 21 ก.ค. กกต.จะพิจารณารับรองเพิ่มเติมหรือไม่ ยืนยันว่าจะไม่มีการขับเคลื่อนประชาชนไปกดดัน แต่อยากให้กกต.ใช้วิจารณญาณ และแสดงศักดิ์ศรี เกียรติยศของความเป็นองค์อิสระด้วย เพราะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ร้องเรียนว่า กล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี แต่ศาลยังไม่ตัดสิน กกต.ก็รับรองเป็น ส.ส.ไปแล้ว แต่พวกตนทั้งๆ ที่มีหลักฐานจะทิ่มตากกต.แล้ว กลับถูกแขวน ดังนั้นเกมส์นี้จึงบีบหัวใจประชาชนให้ตรึงเครียด โกรธแค้นชิงชัง ดังนั้น สิ่งที่จะสู้ได้ คือความอดทน สติสัมปชัญญะ และความสงบนิ่ง
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า วันนี้ได้รับการติดต่อจากสถานทูตหลายประเทศ เพื่อสอบถาม ถึงกรณีดังกล่าวเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่ กกต.กำลังทำอยู่ แสดงให้เห็นว่า โลกทั้งโลกกำลังสนใจประชาธิปไตยในประเทศไทย กำลังจับตามพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง ว่าจะมีชะตากรรมอย่างไร
ดังนั้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงภาพรวมของประเทศด้วย และหากครบ 30 วันแล้ว กกต.ยังไม่รับรอง ก็คงจะต้องมีการหารือ เพื่อสรุปและประเมินสถานการณ์กันอีกครั้ง แต่วันนี้ ยังไม่ขอพูดเรื่องการชุมนุมใดๆทั้งสิ้น