กษิต โวยเยอรมนีอายัด เครื่องบินสัญชาติไทย ระบุผิดพลาด ใหญ่หลวง

เมื่อเวลา 17.15 น. วันที่ 14 กรกฎาคม ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
 
แถลงกรณีศาลเยอรมนีสั่งอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของไทยที่นครมิวนิก เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ว่า มีข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท วอลเตอร์ บาว ของเยอรมนี เกี่ยวกับสัมปทานการก่อสร้างดอนเมืองโทลล์เวย์เมื่อปี 2543 ซึ่งทางวอลเตอร์ บาว ได้มอบหมายให้ทนายชื่อแวร์เนอร์ ชไนเดอร์ เป็นผู้จำหน่ายทรัพย์สิน ทางรัฐบาลไทยได้ดำเนินการทางด้านกระบวนการยุติธรรมเริ่มตั้งแต่การไต่สวนที่ฮ่องกง จนไปจบที่คณะอนุญาโตตุลาการที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นไปภายใต้อนุสัญญานิวยอร์กว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ชี้ขาดให้ราชอาณาจักรไทยชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินเกือบ 30 ล้านยูโร (ราว 1,200 ล้านบาท) บวกดอกเบี้ย 6 เดือนในอัตราร้อยละ 2 ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2549 รวมถึงค่าใช้จ่ายในกระบวนการอนุญาโตตุลาการของบริษัท วอลเตอร์ บาว อีกเกือบ 2 ล้านยูโร (ราว 80 ล้านบาท) โดยให้เหตุผลว่าเพราะรัฐบาลไทยผิดพันธกรณี

นายกษิตกล่าวว่า จากนั้นวันที่ 26 มีนาคม 2553  บริษัทเริ่มดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาของคณะอนุญาโตตุลาการที่นครนิวยอร์ก ฝ่ายไทยยื่นอุทธรณ์ โดยหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบคือสำนักงานอัยการสูงสุด ส่วนเจ้าของคดีฝ่ายไทยคือกระทรวงคมนาคม เมื่อมีผลออกมาแล้วเจ้าทุกข์สามารถบังคับใช้ให้รัฐบาลไทยชดใช้ที่ประเทศไหนก็ได้ที่เป็นสมาชิกของอนุสัญญานิวยอร์ก


"ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือนายชไนเดอร์ฟ้องร้องกับศาลยุติธรรมเยอรมนี ได้ตัดสินเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ให้ไปยึดเครื่องบินของไทยที่จอดอยู่ที่นครมิวนิก รัฐบาลทราบเรื่องเช้าวันที่ 13 กรกฎาคม และได้เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนด้วยความกังวล ในแง่เนื้อหาคือเจ้าทุกข์สามารถดำเนินการกับทรัพย์สินของรัฐบาลไทยได้ แต่เครื่องบินลำนี้ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินของรัฐบาลไทย ฉะนั้น ในแง่กฎหมายเป็นการอายัดทรัพย์สินส่วนบุคคลซึ่งศาลไม่มีสิทธิทำเช่นนั้น ถือเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง" นายกษิตกล่าว


นายกษิตกล่าวว่า ได้มีการยืนยันทางช่องทางการทูตโดยมีหนังสือถึงรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี

และคุยโทรศัพท์กับปลัดกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีแล้ว ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเบอร์ลิน ติดต่อกับกรมสนธิสัญญาของกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ฝ่ายเยอรมนีไม่ได้นิ่งนอนใจ คู่ขนานกันได้แจ้งข้อเท็จจริงซึ่งรวมถึงเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของเครื่องบินต่อศาลเยอรมนี

นายกษิตกล่าวว่า คณะกฎหมายไทยประกอบด้วย อัยการสูงสุด และรองอธิบดีกรมสนธิสัญญาเดินทางถึงนครมิวนิกแล้ว ขณะที่นายจริยวัฒน์ สูตะบุตร เอกอัครราชทูตไทย ได้พบกับทนายที่แต่งตั้งโดยคำแนะนำของกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยแล้ว โดยใช้ทนายของกลุ่มเจ้าของบริษัทบีเอ็ม ดับเบิลยูเป็นผู้มีความสามารถและน่าเชื่อถือ


"บ่ายวันที่ 15 กรกฎาคม ผมและอธิบดีกรมสนธิสัญญาจะไปพบกับฝ่ายราชการของเยอรมนีที่กรุงเบอร์ลิน เพื่อแสดงความกังวลใจและไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นการผิดพลาดอันใหญ่หลวงของกระบวนการยุติธรรมของเยอรมนี เป็นการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดมากโดยทางเจ้าทุกข์และตัวนายชไนเดอร์ จนทำให้เกิดความเสียหายและความเข้าใจผิดอย่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เป็นเรื่องที่คนไทยและรัฐบาลไทยวิตกกังวลเพราะไม่น่าจะเกิดขึ้น หวังว่าภายในวันนี้พรุ่งนี้จะหาข้อยุติได้ เป้าหมายของเราและความจำเป็นสูงสุดคือให้ถอนการอายัดทันที" นายกษิตกล่าว

นายกษิตกล่าวว่า ประเด็นต่อไปคือต้องศึกษาด้วยว่าการที่นายชไนเดอร์มีมาตรการฝ่ายเดียวโดยศาลโดยมิได้ปรึกษาฝ่ายไทยให้อายัดเครื่องบิน และผิดพลาดโดยไม่ได้ปรึกษาหรือไม่แจ้งให้ฝ่ายไทยทราบล่วงหน้า


"เราเคารพในกระบวนการยุติธรรมของมิตรประเทศ และไม่เข้าไปแทรกแซง แต่เราอยู่ในสถานะที่ให้ข้อมูลได้ ขณะนี้ข้อมูลทั้งหมดถูกส่งไปยังศาลเยอรมนีแล้วในหลายช่องทาง เมื่อหลักฐานแน่ชัดว่าไม่ใช่ทรัพย์สินของรัฐบาล มันไม่มี เหตุผลอันใดที่จะไม่คืน ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียวและไม่อยากให้กระทบความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อเยอรมนี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากยกเลิกการอายัดเครื่องบินลำดังกล่าวและจะฟ้องร้องต่อหรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่อยากให้มาโยงกัน ส่วนการดำเนินการเรื่องคดีของรัฐบาลไทยกับวอลเตอร์ บาว ผ่านนายชไนเดอร์เป็นเรื่องที่ดำเนินการกันต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์


เมื่อถามว่า คิดว่าเป็นเหตุบังเอิญหรือเปล่าที่ไปอายัดเครื่องบิน นายกษิตกล่าวว่า ไม่ทราบครับ อันนี้อยู่ที่เจตนาและข้อมูลของนายชไนเดอร์ ก็ไม่ขอต้อนรับบุคคลนี้เข้าประเทศไทยอีก คิดว่าเมื่อศาลได้รับข้อมูลแล้วก็ต้องพิจารณา แต่ก็ต้องให้เวลาเพราะมีขั้นตอนดำเนินการ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและดำเนินการอย่างเต็มที่Ž


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์