โค้งสุดท้าย 'พท.' ชู 'นายกฯหญิง-ทำได้จริง-ปรองดอง-ปัดนิรโทษ' ส่วน ปชป. ย้ำแผล 'ที่นี่มีคนเผา-ไม่เอาล้างผิด-ก้าวข้ามทักษิณ'
นับถอยหลังสู่วันเลือกตั้ง 3 ก.ค.54 การต่อสู้ทางการเมือง เพื่อช่วงชิงเสียงข้างมากจากประชาชนทั้งประเทศ ของพรรคการเมืองทุกพรรค เป็นไปอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพรรคใหญ่ที่เป็นคู่ชิงชัยโดยตรง อย่างพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กลยุทธ์ในช่วงโค้งสุดท้ายของพรรคเพื่อไทยคือ การปัดข้อกล่าวหาในเรื่องนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ตกไปให้ได้ เพราะทางแกนนำพรรคเพื่อไทย เห็นว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยทำให้ประชาชน หายเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องนี้ไปได้ ก็จะโกยคะแนนได้เป็นกอบเป็นกำ
"จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมา คนของพรรคเพื่อไทยรวมทั้ง น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครหมายเลข 1 ปาร์ตี้ลิสต์ ของพรรค และแคนดิเดตนายกฯ ได้เรียงหน้าออกมายืนยันว่า เรื่องนิรโทษกรรม ไม่ใช่นโยบายของพรรครวมทั้งการออกแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยว่า เรื่องนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการใส่ร้ายของพรรคประชาธิปัตย์ โดยพรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายที่จะนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณและคืนเงิน 46,000 ล้านบาท และถ้าหากได้เป็นรัฐบาลก็จะทำงานโดยยึดมั่นในข้อกฎหมาย หลักนิติธรรมและความเสมอภาค"
ไม่เน้นโต้การเมือง ชูนโยบายเป็นหลัก
แหล่งข่าวรายเดิม ระบุว่า ในเรื่องของการเมือง พรรคเพื่อไทยจะไม่เน้น โดยเลือกจะตอบโต้ เฉพาะเรื่องที่สำคัญจริง ๆ เท่านั้น ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าชูภาพ ในเรื่องการทำงาน เริ่มจากการแจกแจงว่า พรรคมีนโยบายอะไรบ้าง และใช้ "ทักษิณ" เป็นเครื่องการันตีว่า ทุกนโยบายพรรคทำได้จริง พร้อมไปกับการอธิบายวิธีการทำนโยบายต่าง ๆ ให้เห็นเป็นรูปธรรมแทนว่า จะทำให้เกิดขึ้นจริงได้อย่างไร ใช้งบประมาณเท่าไหร่ หาเงินจากที่ไหน และจะเสร็จภายในเวลากี่ปี
ขายภาพ "ยิ่งลักษณ์" หญิงแกร่ง "เวิร์คกิ้งวูแมน"
ขณะเดียวกัน ก็เดินหน้าชูภาพ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เป็น "เวิร์คกิ้ง วูแมน" สร้างภาพเชิงบวกให้กับตัวเองและพรรค ที่ไม่เน้นการตอบโต้ประเด็นทางการเมือง พร้อมกับเดินหน้าชูนโยบาย ที่เป็นการ "ตีขนดหาง" ประชาธิปัตย์ไปในตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารงานที่ล่าช้า ผิดพลาด ล้มเหลว , การคอรัปชั่น , การโยกย้ายไม่เป็นธรรม , และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง-ของแพง ซึ่งแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง ก็รู้ดีว่า เป็นจุดอ่อนของตัวเอง
นอกจากนี้ ก็จะเน้นการสร้างภาพลักษณ์ เน้นการปรองดอง สามัคคี ด้วยวลี "แก้ไข-ไม่แก้แค้น"