โฆษกปชป.ชี้ไอทีวีบทเรียนใช้อำนาจรัฐ-ผลประโยชน์ทับซ้อน

โฆษกปชป.ชี้ไอทีวีบทเรียนใช้อำนาจรัฐ-ผลประโยชน์ทับซ้อน

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 ธันวาคม 2549 19:15 น.

"องอาจ" ระบุกรณีไอทีวีชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดของการใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ทับซ้อน แนะ คตส.และ ป.ป.ช.ตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นคลื่นกระทบฝั่ง

แนะไอทีวีควรแปลงวิกฤติให้เป็นโอกาส กลับมาทำหน้าที่เพื่อประชาชนอย่างเป็นธรรม

วันนี้(16 ธ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) มีคำสั่งให้สถานีโทรทัศน์ไอทีวีต้องจ่ายค่าปรับจากการปรับเปลี่ยนผังรายการร้อยละ 10 ของค่าสัมปทานในแต่ละปี พร้อมดอกเบี้ยจากรายได้ของไอทีวีร้อยละ 10 ต่อวัน ตั้งแต่เดือน เม.ย.2547 รวมเป็นเงิน 97,760 ล้านบาท ภายใน 45 วัน หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลางให้เพิกถอนคำสั่งของอนุญาโตตุลาการ ว่า วิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นกับไอทีวีขณะนี้ สังคมไทยควรใช้โอกาสนี้แปลงวิกฤติให้เป็นโอกาส และดำเนินการให้ไอทีวีได้กลับมาสู่จุดประสงค์เดิมของการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ คือ เสนอข่าวตามความจริงอย่างเป็นธรรม และเป็นทีวีเสรีตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ โดยพยายามไม่ให้มีผลกระทบใด ๆ กับพนักงาน เพราะคนเหล่านี้ดำเนินนโยบายตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งหากเปลี่ยนแปลงไปในแนวทางนี้ได้ คิดว่าทั้งพนักงานและสังคมไทยก็คงจะรับได้ รวมทั้งประเทศไทยก็จะมีสื่อทีวีที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น

ชี้ทักษิณ ใช้ไอทีวีเอื้อประโยชน์กลุ่มชิน

ตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับไอทีวีนั้น ผมอยากบอกว่าทันทีที่บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้ามาเกี่ยวข้อง แทบจะเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างผู้มีอำนาจของบ้านเมืองในขณะนั้น คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกัฐมนตรี ทั้งทางตรงและทางอ้อม นี่คือรูปแบบหนึ่งของธนกิจการเมืองที่ทำให้เกิดปัญหาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพราะเมื่อมีผลประโยชน์ทับซ้อนก็มีการใช้อำนาจพยายามเปลี่ยนแปลง ก่อให้เกิดผลกระทบตามมาโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ให้ยอมรับความผิดพลาดที่ผ่านมา

นายองอาจ กล่าวว่า เรื่องที่เกี่ยวพันกับไอทีวีเรื่องหนึ่ง คือ การทำหน้าที่ของอนุญาโตตุลาการในช่วงที่ผ่านมา สังคมไทยมีระบบอนุญาโตตุลาการ เพราะหวังว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ความไม่ชอบธรรมที่เกิดขึ้น อาทิ ระหว่างรัฐกับเอกชน แต่ปรากฏว่าปัญหาส่วนหนึ่งที่บานปลายของไอทีวีก็คือ ผลพวงของการพิจารณาการใช้อนุญาโตตุลาการมาเป็นเครื่องมือปกป้องรักษาผลประโยชน์ ดังนั้น การที่คำพิพากษาของศาลปกครองชี้ขาดออกมาเช่นนี้ ย่อมหมายถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นไม่ถูกต้องในช่วงที่ผ่านมา

จี้ดำเนินคดีทุจริตเชิงนโยบาย

ผมอยากถามว่าใครจะรับผิดชอบสิ่งเหล่านี้ การดำเนินการและการทำหน้าที่ของอนุญาโตตุลาการ เราจะปล่อยให้เป็นคลื่นกระทบฝั่งอย่างนั้นหรือ จึงอยากฝากเรื่องนี้ไปยัง คตส.และ ป.ป.ช.ให้ควรพิจารณาดูว่าการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา เป็นการทุจริตเชิงนโยบายหรือไม่ และจะดำเนินการอย่างไรกับความไม่ชอบธรรมที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาจากระบอบทักษิณซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาจนถึงปัจจุบัน นายองอาจ กล่าว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้โครงสร้างของไอทีวีปลอดจากการเมืองและผู้มีอำนาจบริหารประเทศ โดยเป็นโครงสร้างที่เป็นอิสระ อาจจะบริหารจัดการในรูปของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่สังคมยอมรับ หากเริ่มต้นอย่างถูกต้องอย่างนี้ การบริหารจัดการก็ไม่น่าจะบิดเบี้ยวไปจากจุดประสงค์เดิมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์