ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)
แถลงหลังเข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พยายามกระทำการขัดขวางสิทธิมนุษยชน โดยการยื่นคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวตนพร้อมพวกรวม 7 คน ในคดีก่อการร้าย ต่อศาลในวันที่ 16 มี.ค.ว่า การที่ตนพร้อมพวกไปขึ้นปราศรัยบนเวทีนปช.เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา และตนได้เตรียมมอบหมายให้ทนายยื่นคัดค้านทันที่ที่อธิบดีดีเอสไอยื่นเรื่องเสร็จ แต่ปรากฏว่าศาลยกคำร้องของนายธาริตก่อน ต้องขอบคุณศาลที่ยืนหยัดบนหลักการของกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ตนเรียกร้องให้นายธาริตว่าสิ่งที่กระทำกับพวกตน
โดยการยื่นคัดค้านการประกันตัวหลายครั้ง ต้องบอกว่าตนทราบเงื่อนไขของศาลในการให้ประกันตัวเป็นอย่างดีทั้งการห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และห้ามปลุกปั่นยั่วยุให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง ซึ่งตนเข้าใจและให้ความเคารพต่อศาลเป็นอย่างดี อีกทั้งในการชุมนุมเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ในฐานะโฆษกบช.น. ก็แถลงว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่มีอาวุธหรือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ จึงยืนยันที่จะขึ้นเวทีนปช.ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 19 มี.ค. และสถานที่อื่นๆ รวมทั้งโรงเรียนนปช.ต่อไป เพราะถือเป็นการเคลื่อนไหวโดยปราศจากอาวุธ และมีการประสานกับทางตำรวจตลอดเวลา ทั้งนี้มั่นใจว่าจะได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ
"หากนายธาริตจะใช้สถานการณ์นี้ปู้ยี่ปู้ยำดีเอสไอก็ทำไป ตราบใดที่องค์กรยังทนได้ก็ให้ถือเป็นคราวเคราะห์ แต่อย่าใช้ศาลเป็นเครื่องมือหรือใช้อำนาจทางการเมืองมาต่อรองเพื่อเอาใจรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ หากนายธาริตเคารพกระบวนการยุติธรรมก็ควรหยุดกระบวนการต่างๆได้แล้ว" นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ดีเอสไอกระทำกับพวกตน แต่ไม่กระตือรือร้นที่จะดำเนินการกับกลุ่มอื่น
ทั้งกรณีของนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ที่ชุมนุมปิดถนนหน้าทำเนียบรัฐบาลเป็นเวลากว่า 40 วัน ขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรที่ ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมเรียกร้องกรณีปราสาทพระวิหาร ทั้งที่กลุ่มดังกล่าวมีข้อหาก่อการร้ายเหมือนกัน แต่ไม่มีใครจะดำเนินการยื่นถอนประกันบุคคลเหล่านั้น