น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย อภิปรายปัญหาการทุจริตน้ำมันปาล์มว่าคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติบริหารผิดพลาด
เพราะมีสัญญาณเตือนตั้งแต่เดือน ก.ย. 2553 แล้วว่ามีผลผลิตเหลือในสต๊อก 2 แสนตัน และลดลงจนหมดสต็อกในเดือน ธ.ค. 2553 เป็นข้อน่าสงสัยว่าในเมื่อคณะกรรมการฯ รับทราบตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. ว่าสต๊อกน้ำมันเป็นศูนย์ แต่กลับปล่อยเวลาถึง 20 วันถึงสั่งให้กระทรวงพาณิชย์อนุมัตินำเข้า 3 หมื่นตัน
ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า ฝ่ายค้านตรวจสอบพบผู้ประกอบการรายหนึ่งชื่อ มิสเตอร์พีเค พบว่ามี 2 สต๊อก รวม 1.65 แสนตัน สามารถนำมาผลิตใส่ขวดบรรเทาปัญหาประชาชนได้ แต่กลับปล่อยสต๊อกออกมาในช่วงที่น้ำมันหมด เชื่อว่านายสุเทพรู้จักกันแน่ เพราะเป็นนักธุรกิจทำกำไรเป็นพันล้านและยังมีโรงงานผลิตไบโอดีเซลด้วย นอกจากนี้การที่ รัฐบาลตั้งราคาไบโอดีเซลสูงถึง 70 บาทต่อลิตร ทำให้กลุ่มผู้ผลิตไบโอดีเซลแย่งซื้อน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ เพราะไบโอดีเซลที่ผลิตได้ รัฐบาลจะให้เงินอุดหนุนชดเชยส่วนต่างให้ ผลคือทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบถูกปั่นแพง ซึ่งกลุ่มสุราษฎร์ธานีและอันดามันที่ใกล้ชิดของประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มฯ รู้ดี
“นายกฯ ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะวันที่ 26 ธ.ค. พูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย ก็ส่งสัญญาณจะขึ้นราคา พ่อค้ารู้จึงเก็บหมดเพื่อให้ราคาสูงขึ้น สะท้อนว่านายกฯ ทำให้เกิดการกักตุน ความขาดแคลนยิ่งมากขึ้น เมื่อมีการนำเข้า ราคาขายสูงถึง 47 บาท มีส่วนต่างกับของเดิม 9 บาท ตรงนี้ทำให้ผู้ประกอบการทำกำไรเป็นพันล้าน” น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุ
ส.ส.รายนี้ กล่าวต่อว่า การนำเข้าผลผลิตน้ำมันปาล์ม 3 หมื่นตันในวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา ยังนำมาสู่การทุจริตที่มีใบเสร็จ เนื่องจากเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบแยกไขเรียบร้อยแล้วและมีการหยดกรด 1% เพื่อทำให้กินไม่ได้ แล้วไปผ่านกระบวนการเอากรดออก สมาคมผู้ปลูกปาล์มบอกว่าสต๊อกที่นำเข้าจะผลิตได้ 33 ล้านขวด แต่กรมการค้าภายในบอกว่าผลิตได้ 22 ล้านขวด จึงสงสัยว่าส่วนต่าง 10 ล้านขวดหายไปไหน อีกทั้งการชดเชยราคาผลิตที่โรงกลั่น 9.50 บาทต่อลิตร จุดนี้กำลังร่วมมือโรงกลั่นหรือไม่ ทำไมรัฐบาลไม่ไปชดเชยให้เกษตรกรแทน