เพื่อไทยพร้อมรบเผยข้อมูลเต็ม100พร้อมซักฟอกรบ.“มิ่งขวัญ”นัดตัดตัวอภิปรายฯ“มาร์ค”แย้มเคลียร์พรรคร่วมแล้ว
วันนี้ 14 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ว่า หลังจากที่เราได้ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจ วันนี้คิดว่าปัญหาบ้านเมืองประชาชนให้ความสำคัญสูงสุดกับเรื่องปากท้อง เงินในกระเป๋าและมีความวิตกกังวลในเรื่องความมั่นคงสวัสดิการของตัวเอง ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะเป็นผู้กำหนดอนาคตบ้านเมือง ว่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร
“ผมมีความรู้สึกมากขึ้นว่า เสียงของประชาชนธรรมดาไม่ได้รับความสนใจเท่ากับเสียงดัง ๆ ของคนหลาย ๆ กลุ่ม ที่มาเคลื่อนไหวทางการเมือง ผมจึงได้ตัดสินใจว่าภายในสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค. นับจากนี้ไปประมาณ 1 เดือนครึ่ง ผมจะนำความกราบบังคมทูลเพื่อให้ตราพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไป หวังว่าประมาณเดือนครึ่งจะสามารถผลักดันกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเพื่อคลายความกังวลของ กกต.ได้ นี่เป็นการตัดสินใจเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า”นายกฯ กล่าว
คำพูด “แม้ว”เชื่อไม่ได้
เมื่อถามว่า คิดว่าสถานการณ์หลังจากที่ได้ประกาศความชัดเจนแล้วจะเป็นอย่างไร และเตรียมรับมืออย่างไร นายกฯกล่าวว่า คงจะต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไร เพราะระหว่างนี้จนถึงต้นเดือน พ.ค.ยังมีอีกหลายเรื่อง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่น่ากังวลก็คือการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เราต้องดูแลไปควบคู่กับฝ่ายความมั่นคง ปีที่แล้วมีความรุนแรงวันนี้จึงอยากให้กลับมาสู่ระบบสภาฯ ไม่ต้องการให้มีเรื่องกองกำลังเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด
เมื่อถามต่อว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่หากพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้กลับเข้ามามีอำนาจ ความวุ่นวายอาจยังไม่จบ นายกฯกล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ยิ่งฟ้องประชาชนและชาวโลกว่า ข้อเรียกร้องต่าง ๆ ที่เคยพูดเรื่องประชาธิปไตยไม่เป็นจริง เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โฟนอินมายังเวทีคนเสื้อแดงระบุว่าไม่เชื่อคำพูดของนายกฯเรื่องการประกาศยุบสภา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กลับไปดูว่าคำพูดใครเชื่อได้หรือไม่ได้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณประกาศจะกลับมาแก้ปัญหาให้ประชาชนภายใน 6 เดือน อาจเป็นการหาเสียง
ไม่แน่ใจพรรคร่วมหนุนต่อ
เมื่อถามต่อว่า มีการเปรียบเทียบว่าสถานการณ์ของรัฐบาลในตอนนี้ เหมือนกับช่วงปลายรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายกฯกล่าวว่า ไม่เหมือนกันเลย ขณะนี้เราอยู่ในระบบรัฐสภา พรรคการเมืองต่าง ๆ พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการของรัฐธรรมนูญ มีการแข่งขันและมีทางเลือกให้ประชาชน หวังว่าหลังการเลือกตั้งสถานการณ์บ้านเมืองจะดีขึ้น แต่เรื่องการเมืองคงจะให้ใครมาพูดอะไร 100 %
เมื่อถามถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ติงเรื่องการกำหนดวันยุบสภา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยอมรับว่าหลายท่านไม่เห็นด้วยแต่ตนได้อธิบายไปแล้ว ทุกคนยอมรับและเข้าใจ แต่จะให้ทุกคนพอใจคงบังคับกันไม่ได้ เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งพรรคร่วมรัฐบาลยังจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง เมื่อถามว่า เลขาธิการ กกต.ระบุอาจกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 26 มิ.ย. หรือ 3 ก.ค. นายกฯกล่าวว่า กกต.มีหน้าที่กำหนดวันอยู่แล้ว
เริ่มต้นใหม่เพื่อยุติวุ่นวาย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายบรรหารไม่เห็นด้วยที่นายกฯประกาศวันยุบสภาในสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.ว่า ถึงตอนนี้ต้องเดินหน้าตามแนวทางที่นายกฯได้เรียนกับประชานไว้ ตนทราบดีว่าการที่จะเตรียมการเลือกตั้งเป็นเรื่องลำบากสำหรับทุกพรรค แต่เราคิดถึงส่วนรวมเป็นหลัก ทุกฝ่ายเห็นว่าถ้าประเทศไทยได้เริ่มต้นกันใหม่เร็ว ๆ ความวุ่นวายจะได้หยุดกันเสียที ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“การประกาศกำหนดจะยุบสภาในต้นเดือน พ.ค.เป็นการประกาศวาระของการเลือกตั้ง พรรคการเมืองทั้งหลายก็สมควรที่จะไปเตรียมตัวหาผู้สมัคร และจัดทำนโยบายที่จะเสนอต่อประชาชนได้ตัดสินใจเลือก แพ้หรือชนะให้ประชาชนตัดสิน หลังเลือกตั้งแล้วพรรคไหนได้คะแนนเสียงมากก็ไปจัดตั้งรัฐบาล ประเทศจะได้เดินหน้าไม่ต้องสะดุด
โยนบาป “แม้ว”สั่งการ
รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงยังกล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะทำให้ภาพการทำร้ายประชาชนชัดเจนขึ้น และรัฐบาลจะไม่สามารถชี้แจงได้ว่า ตนมั่นใจว่าจะแสดงหลักฐานให้ประชาชนได้ประจักษ์ด้วยตัวเองว่า กระบวนการที่เกิดเหตุความรุนแรงทั้งหมดเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณสั่งการมาทั้งสิ้น
เมื่อถามต่อว่า มีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์มีการตั้งทีมงานเพื่อทำลายจังหวะในการอภิปรายของฝ่ายค้าน นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทำเราจะให้เกียรติฝ่ายค้านเต็มที่ ขออย่างเดียวอย่าหยาบคาย อย่าไปทำในสิ่งที่ไม่บังควร โดยจะขอร้องเพื่อนส.ส.ปล่อยให้ฝ่ายค้านพูดให้เต็มที่ไม่มีการขัดจังหวะ ยืนยันว่าจะไม่มีองค์รักษ์มาคอยช่วย
ปชป.โวเพิ่มค่าครองชีพ
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ให้ ส.ส.ลงพื้นที่สำรวจค่าครองชีพที่ส่งผลกระทบต่อครัวเรือน และรายงานต่อที่ประชุมพรรคว่า เพื่อนำมาตัดสินใจในการประกาศนโยบายหาเสียง คือ การเพิ่มรายได้ และขึ้นค่าแรงขั้นต่ำร้อยละ 25 ภายใน 2 ปี รวมถึงปรับเพิ่มราคาประกันราคาพืชผล ส่วนนโยบายหาเสียงอื่นจะทยอยประกาศหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไปจนถึงยุบสภาต้นเดือน พ.ค.
“ภาพรวมของนโยบายพรรคจะสานต่อที่ทำอยู่ ทั้งการศึกษาฟรี 15 ปี เบี้ยยังชีพ ขยายการประกันสังคม หนี้นอกระบบ และยุทธศาสตร์ใหม่การเพิ่มค่าครองชีพ ขอให้ประชาชนเปรียบเทียบกับพรรคเพื่อไทย ที่ยังพูดแต่เรื่อง 2 มาตรฐาน”โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวและว่า ส่วนกรณี กกต.เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ พรรคจะประสานให้วิปรัฐบาลนำเรื่องบรรจุวาระโดยเร็ว และขอให้สภาพิจารณา 3 วาระรวด
“กษิต”ยอมรับพูดมันปาก
ด้านนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ตนทำอาชีพการเมืองแต่ไม่ใช่นักการเมือง ตนพูดด้วยข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา บางครั้งหน้าตาอาจจะดุดันแต่ไม่ได้เสแสร้งหรือเล่นการเมืองตามกระแส ตนไม่โกหกประชาชน
“ผมอาจจะเคยพลาดพูดมันปากเพราะถูกด่ามาก ผมก็มนุษย์ปุถุชนธรรมดาไม่ใช่พระอรหันต์ แต่โดยทั่วไปผมไม่ได้ไปหยาบคายกับใคร บางทีก็ลืมตัวว่าเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศต้องนุ่มนวลกว่านี้ แต่ผมมีเจตนาดีที่ต้องการปกป้องศักดิ์ศรีประเทศ และบางครั้งก็ต้องพูดเรื่องข้อเท็จจริง”นายกษิตกล่าว
พท.นัดเคาะรายชื่อถล่มรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน และประธานคณะทำงานด้านเตรียมการอภิปรายฯ ยังไม่ได้สรุปว่าจะอภิปรายหมวดการทุจริต หมวดบริหารงานล้มเหลว หรือหมวดสลายการชุมนุมก่อน เพราะต้องรอดูสถานการณ์การเมืองในวันที่ 15 มี.ค.ที่เป็นวันอภิปรายวันแรก ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะอภิปรายถึงหมวดความล้มเหลวและหมวดการทุจริตก่อน และตบท้ายด้วยหมวดสลายการชุมนุม สาเหตุที่ต้องอภิปรายหมวดบริหารงานล้มเหลวและหมวดการทุจริตก่อนนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพราะมีผู้อภิปรายเป็นจำนวนมาก ขณะที่หมวดสลายการชุมนุมมีผู้อภิปรายแค่ 7 คน อย่างไรก็ตามในวันที่ 14 มี.ค.ที่ประชุมคณะทำงานด้านเตรียมการอภิปรายฯจะตัดทอนผู้อภิปรายลงอีก เพื่อให้จำนวนผู้อภิปรายสอดคล้องกับเวลา 40 ชั่วโมงและข้อมูลที่มีอยู่
โวข้อมูลพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนนี้ข้อมูลครบ 100 % แต่มีข้อกังวลคือการตรวจสอบคลิปและภาพถ่ายที่จะใช้อภิปราย และการประท้วงในสภา เพราะทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยได้ตั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรีกว่า 40 คน เพื่อประท้วงฝ่ายค้านให้เสียจังหวะและเวลา จึงขอฝากไปยังนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ขอให้ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง เพราะทราบว่าองครักษ์ที่ลุกขึ้นมาประท้วงจะได้รับรางวัลด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงการรับประทานอาหารร่วมกันของพรรคชาติไทยพัฒนากับพรรคภูมิใจไทยว่า เป็นการต่อรองเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทราบว่ารัฐมนตรีจากบางพรรคถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ เรียกข้าราชการไปติวเข้ม กลัวว่าจะมีเหตุการณ์อย่างที่พรรคเพื่อแผ่นดินงดออกเสียงและโหวตสวน ตนขอเรียกร้องพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคกิจสังคม หากทราบข้อมูลของฝ่ายค้านที่ชัดเจนแล้ว ต้องมีจริยธรรมรับผิดชอบต่อประชาชน อย่ายกมือสวนความรู้สึกของประชาชน
ชี้“มาร์ค”จนปัญญายุบสภา
นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ แถลงว่า การประกาศกำหนดการยุบสภาของนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.เพื่อให้มีการเลือกตั้งในเดือน มิ.ย. น่าจะเกิดจากการอับจนปัญญาของนายกฯจึงยุบสภาเพื่อหนีปัญหาที่รุมเร้าอยู่ อย่างไรก็ตามพรรคพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งโดย
เมื่อถามว่า พรรคตั้งเป้าได้ ส.ส.เพียงใด นายสมศักดิ์ โกสัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า พรรคจะไม่ส่งผู้สมัครทุกพื้นที่ แต่จะส่งเฉพาะที่มั่นใจ รับรองว่ารายชื่อไม่มียี้แน่นอน ส่วนระบบบัญชีรายชื่อจะส่งผู้สมัครครบทั้ง 125 คน
ด้านนายสุริยะใส กะตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้พรรคฝ่ายค้านอภิปรายฯโดยนำข้อมูลทุจริตออกมาเปิดเผยให้มากที่สุด ไม่ควรใช้เวทีสภามาเพื่อฟอกคนเสื้อแดงจากผิดกลายเป็นถูก ดังนั้นการอภิปรายฯครั้งนี้ก็น่าจับตาดูว่าประชาชนจะได้ประโยชน์หรือไม่