นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า
คนเสื้อแดงมาชุมนุมกันมากขึ้นกว่าเดิมเพราะการปล่อยตัวแกนนำ โดยเฉพาะนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งถือเป็นแม่เหล็กของกลุ่ม อีกทั้งเป็นการแสดงศักยภาพของกลุ่ม ส่วนการจัดการชุมนุมเดือนละ 2 ครั้งก็เพื่อกดดันรัฐบาลและทหาร โดยเฉพาะประชาชนเริ่มไม่พอใจรัฐบาลในการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง อีกทั้งเป็นการประเมินพลังมวลชนก่อนการเลือกตั้งว่าจะเลือกใคร
ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. กล่าวว่า คนเสื้อแดงมาด้วยใจ และมาตามระบอบประชาธิปไตย
ข้อเรียกร้องหลักก็ต้องการให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ระบอบประชาธิปไตย มีความเป็นธรรมในสังคม เรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุสลายการชุมนุมจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 91 ศพ หรือแม้แต่กรณีของนักข่าวญี่ปุ่น หากไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้ก็นับเป็นเรื่องน่าอับอาย
นางธิดากล่าวอีกว่า การชุมนุมครั้งต่อไปวันที่ 19 มีนาคม เวลา 13.00 น. ที่สี่แยกราชประสงค์ และเวลา 14.00 น. จะเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ชุมนุมจนเวลา 02.00 น. วันที่ 20 มีนาคม โดยมีหลักการเหมือนเดิม คือ ทวงความยุติธรรม ต้องการให้สังคมไทยตระหนักว่าจะปล่อยให้ทำแบบนี้อีกไม่ได้ ส่วนประเด็นยุบสภาเป็นเรื่องรอง แต่การยุบสภาอาจเป็นเพราะรัฐบาลคลางแคลงใจว่าจะถูกรัฐประหารหรือเปล่า เพราะสังคมไทยมีความเสี่ยงที่จะถอยหลังเข้าคลองตลอดเวลา
"กำหนดช่วงเวลายุบสภานั้น เพราะถูกฝั่งอำมาตย์ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และกองทัพกดดัน การเปิดเผยความจริงเรื่องการเข่นฆ่าประชาชนอาจทำให้กองทัพรับไม่ได้ วิธีแก้ คือ ทำรัฐประหาร แล้วนิรโทษกรรมให้เลิกกันไป ซึ่งถ้าเรายังเปิดเผยข้อมูลต่อไป กองทัพจะมีปัญหากับพรรคประชาธิปัตย์" นางธิดากล่าว และว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถทำให้ความยุติธรรมและความจริงปรากฏได้ กลุ่มคนเสื้อแดงก็ต้องช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งหากมองจากสภาพของกลุ่มมวลชนแล้ว อาจได้เสียงมากกว่าที่คาดกันไว้ก็ได้