สภาป่วน “พท.”ไม่รับ“พ.ร.บ.เทพเทือก”
พ.ร.บ.คุมม็อบผ่านสภา229 ต่อ85 เพื่อไทยลั่นไม่ร่วมสังฆกรรมตั้งกมธ. โวยเป็น พ.ร.บ.สุเทพ ติดหนวดฮิตเลอร์
วันนี้ (10มี.ค.) ที่รัฐสภา ภายหลังเสร็จสิ้นการพิจารณากระทู้ถามสดและกระทู้ถามทั่วไป ได้มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ จำนวน 2 ฉบับ ที่เสนอโดย ครม. และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่อจากการประชุมเมื่อวันที่ 9 มี.ค. โดยมีมติรับหลักการในวาระที่ 1 ด้วยคะแนน 229 ต่อ 85 เสียง และไม่ลงคะแนน 7 เสียง มีสาระสำคัญกำหนดหน้าที่ของการชุมนุมในที่สาธารณะและผู้ที่เข้าร่วมชุมนุม พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์ในการชุมนุม ซึ่งผู้ที่จะจัดการชุมนุมต้องแจ้งให้สถานีตำรวจที่อยู่ในเขตความรับผิดชอบรับทราบไม่น้อยกว่า 72 ชั่วโมง และสามารถแจ้งขอกำลังเจ้าหน้าที่ให้ช่วยรักษาความปลอดภัยได้
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ปรากฎว่า นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า พรรคเพื่อไทยมีมติไม่ส่งส.ส.เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการ เพราะกฎหมายดังกล่าวดึงโครงสร้างอำนาจศาลเข้ามาเกี่ยวข้อง และโควตารายชื่อกรรมาธิการของรัฐบาลเป็นตำรวจมีแนวโน้มเป็นเผด็จการ ดังนั้นขอเรียกกฎหมายฉบับนี้ว่าเป็น “พ.ร.บ.สุเทพ เทือกสุบรรณ” ทำให้นายสุเทพลุกขึ้นชี้แจงว่า พูดแบบนี้เป็นการประสงค์ร้าย กฎหมายฉบับนี้มีไว้คุ้มครองสิทธิของประชาชน ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยทำร้ายประชาชน ทำให้นายสมคิด บาลไธสง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ประท้วงด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดว่า รัฐบาลจะไม่ฆ่าประชาชนได้อย่างไร แล้ว 91 ศพใครเป็นคนฆ่า ทำให้นายสุเทพ ลุกขึ้นตอบโต้ว่า ใครฆ่าประชาชนขอให้อดทนรอในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจในสัปดาห์หน้า ตนจะเอารูปให้ดูว่าใครถือปืนอาก้ายิงประชาชนมาเปิดให้ดู
ต่อมาบรรยากาศการประชุมถกเถียงกันไปมาระหว่างส.ส.พรรคเพื่อไทยกับส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลังจากพรรคเพื่อไทยไม่ขอร่วมสังฆกรรมเข้าเป็นกรรมาธิการฯ ในท้ายที่สุดนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ตัดบทเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญทั้งหมด 26 คน โดยเว้นสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยเอาไว้ และแปรญัตติภายใน 7 วันตามข้อบังคับ
จากนั้นได้เข้าสู่วาระรับทราบรายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯชุดต่างๆ โดยเมื่อถึงวาระรับทราบรายงานผลการศึกษาของกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร กรณีผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ปรากฏว่ามี กรรมาธิการเพียง 1 คนที่ขึ้นบังลังก์เพื่อมารายงานผลการศึกษา ทำให้นายสามารถ กล่าวว่า เมื่อคณะกรรมาธิการไม่มีความพร้อมที่จะรายงานผลการศึกษา จึงขอสั่งปิดการประชุมไปในเวลา 13.22 น.