พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าววันที่ 3 มีนาคมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า
กรอบเวลา 4 วันไม่ถือว่าเยอะเกินไป เพราะมีข้อมูลจำนวนมากและไม่คิดว่าเป็นการเสี่ยงที่ฝ่ายค้านจะเพลี่ยงพล้ำ เพราะฝ่ายค้านไม่มีเพลี่ยงพล้ำอยู่แล้ว เนื่องจากข้อมูลที่จะนำมาอภิปรายทราบว่ามีความชัดเจน อย่างนายกรัฐมนตรีถ้าบอกว่าซื่อสัตย์ แต่รัฐมนตรีจะคอร์รัปชั่นได้หรือไม่ ถ้านายกรัฐมนตรีซื่อสัตย์จริง ก็ต้องห้ามรัฐมนตรีทุจริตคอร์รัปชั่น ส่วนการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) วันที่ 12 มีนาคมนี้ ที่อาจตรงกับวันอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น คิดว่าไม่กระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเป็นคนละเรื่อง ไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว
พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ห่วงเรื่องการเลือกตั้ง แต่ห่วงช่วง 3-4 เดือนนี้จะรอดหรือเปล่า เพราะก็มีบางคนยังคิดเรื่องการรัฐประหาร เนื่องจากเขามองว่าไม่มีทางออก อย่างเช่นผู้ใหญ่ในกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บางท่านพูดกับตนว่า ยุบสภาแล้วปัญหาก็ยังอยู่ นายกรัฐมนตรีจะไปหาเสียง จ.เชียงใหม่ไม่ได้ หรือถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแต่ไม่เกินครึ่งแล้วไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้วประชาชนจะยอมหรือ ซึ่งตนก็ขอบอกว่า ครั้งนี้ถ้าเกิดการยึดอำนาจขึ้นอีกจะนองเลือด ถ้าประเทศยังมีอำมาตย์คอยกำกับอยู่อย่างนี้ บ้านเมืองก็ไปไม่ได้ ทางออกคืออำมาตย์ประกาศถอนตัวก็จบ ซึ่งอำมาตย์ที่ตนพูดหมายถึงคนที่รายรอบสถาบันและทำให้สถาบันเสื่อมเสีย แต่ดูแล้วเขาไม่ยอมถอน
"ผมกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยปรับทุกข์กันบ่อยครั้งว่า เผด็จการซ่อนรูปอยู่ไม่ได้ บ้านเมืองตอนนี้เหมือนทาง 3 แพร่งซึ่งน่าเป็นห่วง และถ้ามีการรัฐประหารแล้วเกิดการชุมนุม ครั้งนี้จะรุนแรงเหมือนประเทศลิเบีย เพราะกองทัพรู้สึกว่าประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยจะล้มสถาบัน เขาก็พร้อมจะฆ่าซึ่งเขาคิดอย่างนี้ก็ไม่ผิด ฉะนั้นการปราบปรามจะโหดขึ้น" พ.อ.อภิวันท์กล่าว