เพื่อไทย ยื่นญัตติซักฟอกรัฐบาล ชี้ “มาร์ค” บริหารงานล้มเหลว โกง-คอรัปชั่นกว่าทุกรัฐบาล สินค้าราคาแพง
วันนี้ (1 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญัตติที่ฝ่ายค้านได้ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี มีเนื้อหาโดยสรุปว่า ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลได้บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้รัฐมนตรีในรัฐบาลและบุคคลแวดล้อมกระทำการทุจริต คอรัปชั่น แสวงหาประโยชน์อย่างกว้างขวาง การบริหารก็ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม ขาดหลักธรรมาภิบาล ดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจล้มเหลว ขาดวินัยการเงินการคลัง ละเว้นและปล่อยปละละเลยไม่ปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ในทางตรงกันข้ามกลับบังคับใช้กฎหมายโดยขาดความเสมอภาค เลือกปฏิบัติสองมาตรฐาน จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ไม่เคารพหลักประชาธิปไตย ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ และเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง ทำลายระบบราชการ ขยายความขัดแย้งแตกแยกในสังคม ล้มเหลวในการแก้ปัญหาความมั่นคงภายในประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
โดยในญัตติยังได้ระบุถึงพฤติกรรมการบริหาราชการแผ่นดินของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า
1.ไม่ปฏิบัติตามแผนการบริหารราชการแผ่นดินและแผนการตรากฎหมายและนโยบายตามที่แถลงไว้ในรัฐสภา มีเจตนาฉ้อฉล เปิดช่องให้มีการทุจริตคอรัปชั่นในโครงการต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง มากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังไร้ความรู้ความสามารถและสติปัญญาในการกำหนดนโยบายบริหารประเทศโดยต้องอาศัยงบประมาณจำนวนมาก เพื่อจ้างบุคคลภายนอกมาขายฝันให้กับรัฐบาล รวมถึงการเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ ไม่เป็นไปตามครรลองคลองธรรม ยังเป็นบุคคลสองสัญชาติ ไร้วุฒิภาวะการเป็นผู้นำพูดจาไม่มีสัจจะ
2.จงใจใช้อำนาจหน้าที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
3.ทำลายระบบราชการด้วยการแทรกแทรงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ปล่อยให้มีการแสวงหารประโยชน์จากการซื้อขายตำแหน่ง
4.ไม่ควบคุมให้มีการรักษาวินัยการเงินการคลัง เพื่อสนับสนุนเสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดภาระหนี้สาธารณะสูงสุดเป็นประวัติการณ์
5.ไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ปล่อยให้ราคาสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นสูงขึ้นและคลาดแคลน
6.ดำเนินนโยบานต่างประเทศที่ผิดพลาด และล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง แทรกแทรงกิจการภายในของประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์และการค้าระหว่างประเทศอย่างรุนแรง
และ 7.ล้มเหลวในการแก้ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเกิดเหตุรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง.