นาม ลั่นจับโกงกล้ายาง - CTX ก่อนสิ้นปี! ถวิลหา ม.17 หวังสำเร็จโทษ

นาม ลั่นจับโกงกล้ายาง - CTX ก่อนสิ้นปี! ถวิลหา ม.17 หวังสำเร็จโทษ

นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 ธันวาคม 2549 00:15 น.

ปธ.คตส. กร้าวใส่กรมสรรพากร ต้องยึดมติ คตส. ชี้ หากยัง ดื้อตาใส เลี่ยงเก็บภาษีหุ้นชิน เจอกันที่ศาลแน่ เผย ก่อนสิ้นปีจับทุจริตกล้ายาง ซีทีเอ็กซ์ ขึ้นเขียงเชือดแน่ วอนสังคมใจเย็น เพราะ รธน.ไม่เอื้ออำนวยเหมือนสมัย จอมพลสฤษดิ์ จับยิงเป้าได้ทันที






วันนี้ (8 ธ.ค.) นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)

กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ระหว่างบริษัท แอมเพิล ริช กับนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร จำนวน 326 ล้านหุ้น ในราคา 1 บาท โดยทางกรมสรรพากร ยืนยันมาตั้งแต่ต้น ว่า เข้าข่ายต้องจัดเก็บภาษีตามมาตรา 40(8) แต่ทางอนุตรวจสอบของ คตส.ที่มี นายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ มีความเห็นว่า จะต้องใช้มาตรา 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร จัดเก็บภาษี เนื่องจาก นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา เป็นกรรมการบริษัท แอมเพิล ริช ซึ่งทางกรมสรรพากรยังมีท่าทีนิ่งเฉย ทำให้ คตส.หวั่นวิตกว่ากรมสรรพากรจะใช้มาตราผิดในการจัดเก็บภาษี ทำให้ไม่สามารถประเมินภาษีใหม่ได้นั้น

นายนาม กล่าวว่า ในหลักการ ถ้า คตส.เห็นอย่างไร แล้วเสนอให้กรมสรรพากรดำเนินการ

กรมสรรพากรจะต้องปฏิบัติตามสิ่งที่ คตส.เสนอไป ถ้าไม่ทำตาม หรือมีความเห็นทางกฎหมายที่แตกต่างในการเก็บภาษี ก็ต้องให้ศาลสั่ง โดย คตส.จะส่งเรื่องให้อัยการสั่งฟ้องศาล เพื่อสั่งบังคับคดี โดยต้องมีการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม และมีการบังคับคดี ซึ่งกระบวนการของศาลยอมรับว่าจะต้องใช้เวลานานมาก เพราะศาลจะต้องเรียกทั้งโจกท์และจำเลย มาให้ปากคำ

นายนาม กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าในการตรวจสอบของแต่ละคณะอนุกรรมการนั้น

เท่าที่ทราบมีความชัดเจนแล้ว 2 โครงการ คือ ที่จะขอมติจาก คตส.เพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน และแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลที่เกี่ยวข้องภายในเดือน ธ.ค.นี้ ประกอบไปด้วย โครงการการจัดซื้อกล้ายาง 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีนายบรรเจิด สิงคะเนติ เป็นประธานอนุกรรมการ และโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ที่มี นายอำนวย ธันธรา เป็นประธานอนุกรรมการ ส่วนกรณีการซื้อขายที่ดินย่านถนนรัชดา ระหว่างคุณหญิงพจมาน ชินวัตร กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ที่มีนายอุดม เฟื่องฟุ้ง เป็นประธานอนุกรรมการ เรื่องดังกล่าวตนไม่สามารถตอบแทนประธานอนุกรรมการชุดนั้นได้

เมื่อถามถึงความล่าช้าในการทำงานของ คตส.เมื่อเทียบกับการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ที่สามารถเอาผิดกับกรมสรรพากรฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ นายนาม กล่าวว่า การทำงานของ คตส.จะต้องทำงานอย่างรอบคอบรัดกุมและชัดเจน ประกอบกับ คตส.เพิ่งเป็นหน่วยงานที่เพิ่งตั้งขึ้นมา ซึ่งต่างจาก ป.ป.ช.ที่มีการทำสำนวนมาก่อนที่กรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน ปัจจุบันจะเข้ามาทำงานตามประกาศของคณะทหาร ดังนั้น การปฏิบัติงาน คตส.จึงมีความจำเป็นจะต้องไปรวบรวมข้อมูลใหม่ทั้งหมดภายใน 1 ปีนี้ เพื่อสรุปสำนวนให้ศาลเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดในชั้นสุดท้าย

การทำงานครั้งนี้ไม่ได้มีอำนาจเหมือนรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 17 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

ที่มีอำนาจเด็ดขาดที่สามารถสั่งยิงเป้า เพราะฉะนั้นถ้าต้องการทำงานให้เร็วคงจะต้องให้มีกฎหมายลักษณะดังกล่าว แต่ปัจจุบันไม่ได้มีกำหนดไว้ ทำให้เรื่องทั้งหมดจะต้องไปสิ้นสุดตามกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาล นายนาม กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์