´สุรยุทธ์´ ยันงบปี 50 โปร่งใสแน่ๆ

>>>ตนมีเจตนารมณ์และมุ่งหวังที่........



วานนี้ (6 ธ.ค.) ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2550 โดยมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงหลักการและเหตุผลประกอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 โดยสรุปว่า หลักการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 เป็นงบประมาณขาดดุล วงเงิน 1,566,200 ล้านบาท การบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของตนมีเจตนารมณ์และมุ่งหวังที่จะปรับเปลี่ยนการเผชิญหน้า ส่งเสริมการสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติและมุ่ง แก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ รวมทั้งธำรงพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีได้กำหนดนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่าย เพื่อควบคุมมิให้รายจ่ายประจำขยายตัวเกินความจำเป็น สร้างความโปร่งใส เป็นธรรม ประหยัด และสร้างฐานรากความเจริญกระจายสู่พื้นที่ต่างๆอย่างทั่วถึง ขอย้ำว่าจะให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายงบที่โปร่งใส ถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้


สมเกียรติ ด่าจัดงบโอ๋กองทัพ ......


จากนั้นได้เปิดให้สมาชิกอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยนายสมเกียรติ อ่อนวิมล สมาชิก สนช.อภิปรายว่า ผิดหวังกับรัฐบาลชุดนี้ที่มาจากการรัฐประหาร แต่การจัดทำงบไม่ได้แตกต่างไปจากทุกปีที่ผ่านมา เป็นไปตามข้อเสนอของหน่วยงานราชการทั้งสิ้น ไม่แสดงให้เห็นว่าประเทศจะพัฒนาก้าวกระโดดได้อย่างไร ดูแล้วเซ็งน่าเบื่อ ไหนๆก็เป็นนักปฏิวัติ ยึดอำนาจมาแล้วน่าจะทำให้มันโฉ่งฉ่างฝากชื่อไว้เป็นอนุสรณ์ ไม่เช่นนั้นจะปฏิวัติไปทำไม และการจัดงบให้กระทรวงกลาโหม ซึ่งมีสมาชิกบางคนออกมาสนับสนุนคิดว่ามันเกินความจำเป็น เหมือนต้องการเอาใจกองทัพกันตั้งแต่แรก จัดงบให้มากเกินไป เมื่อเทียบกับงบพัฒนาบุคคล ไม่รู้เหมือนกันว่าเอางบมากมายไปทำอะไร ทำไมไม่นำมาพัฒนาปัจจัยพื้นฐานของประชาชน ถ้าจัดจืดๆแบบนี้ชีวิตก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง


ประสงค์ หนุนเพิ่มงบให้ทหาร


ด้าน น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2550 ว่า ในภาพรวมรัฐบาลคงต้องใช้แนวทางเดียวกับการจัดทำงบประมาณของรัฐบาลชุดที่แล้ว แต่ต้องจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากประชาชนเพราะรัฐบาลชุดที่แล้วใช้งบไปหลายอย่างและเอาเงินคงคลังไปใช้ ทำให้รัฐบาลนี้ต้องเข้ามารับภาระแก้ไข ตนสนใจเป็นพิเศษคืองบกองทัพที่คิดได้เพียงร้อยละ 1 ของจีดีพี เทียบกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคถือว่ารั้งท้าย งบพัฒนากองทัพไม่มีเลย ถือว่าได้น้อยทั้งที่สถานการณ์ความไม่ สงบเรียบร้อยทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดภาคใต้มีมาก จึงต้องคิดว่าทำอย่างไรจะหาทางแปรญัตติเพิ่มเงินให้กองทัพได้ ที่ผ่านมาบางสมัยงบทหารได้ถึง 10% หรือ 5% ถ้าได้งบน้อยจะกระทบความมั่นคงส่วนรวม ต้องดูว่าจะดึงงบจากส่วนอื่นได้อย่างไร



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์