นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรครวมชาติพัฒนา(รช.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังปีใหม่ว่า
ปีหน้าจะมีการเลือกตั้งค่อนข้างแน่นอน เห็นจากการให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และเป็นเทอมสุดท้ายของสภา ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมจะมีการเลือกตั้ง เพราะสถานการณ์ต่างๆ ก็ไปในทิศทางที่ดีขึ้น และการเลือกตั้งเป็นข้อเรียกร้องหนึ่งของการชุมนุมประท้วงที่ผ่านมา ถือเป็นการลดเงื่อนไขของความขัดแย้ง ถ้าปีหน้าการเลือกตั้งเรียบร้อย จะเป็นปีที่ดีของเศรษฐกิจของประเทศ และจะได้รับการยอมรับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและนักท่องเที่ยว
นายสุวัจน์กล่าวถึงการควบรวมกับกลุ่ม 3 พีว่า อาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง โดยการเมืองทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า เสถียรภาพการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ความเข้มแข็งของพรรคการเมืองก็คือพื้นฐานของเสถียรภาพของการเมือง ฉะนั้นถ้าพรรคการเมืองสามารถสร้างความปรองดองกันได้ รวบรวมกันให้เป็นปึกแผ่นและมีเสถียรภาพ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ สัญญาณการเมืองเรื่องการเลือกตั้งก็ค่อนข้างชัดเจน จากนี้ไปคงมีความเคลื่อนไหวใหม่ๆ ของการเมือง เช่น บางพรรคการเมืองอาจมีการปรับฐาน หรือพูดคุยกัน หรือเริ่มมีการกำหนดนโยบายต่างๆ เพื่อเตรียมหาเสียงเลือกตั้ง แต่ว่าพรรคใดจะรวมกับพรรคใด คงเป็นเรื่องของอุดมการณ์นโยบายที่ผู้บริหารพรรคคงจะพูดคุยกันต่อไป
"ความคืบหน้าของการรวมพรรครวมชาติพัฒนากับพรรคเพื่อแผ่นดิน กลุ่ม 3 พีนั้น เป็นเรื่องของผู้บริหารพรรคของแต่พรรคที่จะพูดคุยกัน ตอนนี้มองว่าบางทีการเมืองก็เป็นเบี้ยหัวแตก พรรคเล็ก พรรคน้อยก็เยอะ อย่างดูรัฐบาลบางทีก็ 5 พรรค 6 พรรค หรือบางทีก็จะมีกลุ่มการเมืองที่ซ้อนอยู่ในระบบพรรคการเมือง บางทีก็ก่อให้เกิดความสับสน และไม่เป็นผลดีต่อภาพพจน์ของพรรคการเมืองหรือต่อองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางการเมือง ฉะนั้นผมคิดว่าถ้ามีการรวมตัวกัน และสร้างความเข้มแข็ง แต่ขอให้การรวมตัวนั้นอยู่บนพื้นฐานของนโยบายที่สังคมให้การยอมรับก็น่าสนับสนุน ถ้ามีการรวมตัวกันในทางที่ดีจะก่อให้เกิดเสถียรภาพทางการเมืองต่อประเทศ" นายสุวัจน์กล่าว