นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการขึ้นอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ของ กทม.ว่า ตนทราบว่า ขณะนี้ เรื่องการขึ้นค่าโดยสารนั้น ทางนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ไปยื่นหนัง สือต่อ กทม. ขอให้มีการพิจารณาเรื่องการขึ้นค่า โดยสารใหม่ ทาง กทม. จึงได้ไปเจรจากับบีทีเอสแล้ว ขณะนี้ก็ยังเจรจากันอยู่ และทราบว่ากำหนด การขึ้นค่าโดยสารจากเดิมที่จะขึ้นช่วงเดือน ธ.ค. เลื่อนไปเป็นเดือน มี.ค. ซึ่งเท่ากับเขาก็พิจารณาทบทวนให้ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องนโยบายของพรรคเกี่ยวกับเรื่องการขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้า บีทีเอสนั้น ถือว่า ต้องถามในส่วนของผู้บริหาร กทม.
ปชป.ลอยแพคน กทม.ปัดดูรถไฟฟ้า
ยังใช้โปรโมชั่น......เป็นส่วนลด
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเดียวกันนี้ว่า ข้อเท็จจริง ขณะนี้ คือทางบีทีเอส ปรับขึ้นค่าโดยสารขั้นต่ำแล้ว จาก 10 บาท เป็น 15 บาท และขึ้นราคาทุก 2 สถานีอีก 5 บาท แต่บีทีเอส ยังใช้โปรโมชั่นของขวัญ เป็นส่วนลดในช่วง 3 เดือน จนถึงวันที่ 1 มี.ค. โดยที่ทาง กทม. ไม่ยับยั้งเรื่องไว้ก่อน จริง ๆ แล้ว คำว่า อีก 3 เดือน ขึ้นค่าโดยสาร คือเมื่อถึงวันที่ 1 มี.ค. กทม. จะต้องมีการเจรจากับบีทีเอสใหม่อีกครั้ง ไม่ใช่ 1 มี.ค. แล้วปรับใช้ราคาใหม่ ซึ่งขณะนี้เท่ากับทางบีทีเอส ไม่ต้องมาขอกับ กทม. อีกครั้งแล้ว สามารถขึ้นค่าโดยสารได้เลย
มีความเห็นที่จะให้บีทีเอสยับยั้ง.....
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ ตนได้นำไปหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วยซ้ำ และหัวหน้าพรรคก็มีความเห็นที่จะให้บีทีเอสยับยั้งการขึ้นค่าโดยสารไว้ก่อน โดยนายอภิสิทธิ์ ต่อรองในส่วนที่ กทม.ลงทุนเพิ่มส่วนต่อขยายไปฝั่งธนฯ และส่วนต่อขยายจากสถานีอ่อนนุช ไปซอยแบริ่ง ที่ กทม. ลงทุนเองทั้งหมด ว่า ตรงนี้จะช่วยบรรเทาภาระของบีทีเอสได้ ซึ่งตนมองว่า การขึ้นค่าโดยสาร ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอให้ขึ้น เพราะทางบีทีเอส อ้างว่า ต้องขึ้นเพราะต้นทุนค่าไฟฟ้าและค่าดำเนินการสูงขึ้น แต่ไม่มีหลักฐานต้นทุนเพิ่มที่ชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องของพรรค เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับความไว้วางใจในการเลือกตั้งท้องถิ่น ให้เข้ามาเป็นผู้ว่าฯ กทม. จึงต้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชน และตนจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป โดยยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าโดยสาร และหัวหน้า พรรคก็ไม่เห็นด้วย.