ลิ่วล้อ แม้ว ยอมเปิดปาก รับใบสั่ง จันทร์ส่องหล้า ป่วนรัฐ - คมช.

ลิ่วล้อ แม้ว ยอมเปิดปาก รับใบสั่ง จันทร์ส่องหล้า ป่วนรัฐ - คมช.

นายไทกร พลสุวรรณ เปิดแถลงข่าวยืนยันคลื่นใต้น้ำมีจริง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 ธันวาคม 2549 17:02 น.

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - แกนนำอีสานกู้ชาติแถลงข่าวเปิดตัว เทพพนม ศิริวิทยารักษ์ หัวโจกม็อบหนุน แม้ว ยืนยันคลื่นใต้น้ำมีจริง ยอมรับหน้าชื่นเคยจัดม็อบสู้กับกลุ่มพันธมิตรฯ ตามคำสั่ง เนวิน โดยมี ภูมิธรรม ดูแลบัญชีค่าจ้างวันละ 5-9 ล้านบาท ก่อนแตกคอยี้ห้อย หันมารับเงิน คงศักดิ์ ก่อม็อบเรียกร้องเลือกตั้งร่วมกับ ฉลาด วรฉัตร เผย ขณะนี้ขึ้นตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า รับคำสั่งป่วนรัฐบาล ขู่หากรัฐไม่เรียกสมานฉันท์ก่อน 10 ธ.ค.เจอสารพัดม็อบแน่

วันนี้ (1 พ.ย.) นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำขบวนการอีสานกู้ชาติ ได้แถลงข่าวเปิดตัวแกนนำคลื่นใต้น้ำที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ที่โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล จังหวัดขอนแก่น พร้อมนำนายเทพพนม ศิริวิทยารักษ์ ประธานเครือข่ายประชาชนภาคอีสานพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เผยข้อมูลปฏิบัติการคลื่นใต้น้ำ ที่กำลังเตรียมชุมนุมใหญ่ ใช้วันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2549 นี้ เป็นวันประกาศศึกที่สนามหลวง

นายเทพพนม เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้นำม็อบทางการเมืองที่สำคัญ เนื่องจากเป็นนักเลือกตั้ง สร้างวิกฤตเป็นโอกาส

นายเทพนม ศิริวิทยารักษ์

อย่างเช่น กรณีม็อบสนับสนุน กกต.ชุดที่มี นายวาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน ที่หน้าศาล ตลอดจนม็อบหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์คมชัดลึก และยังเป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตนเป็นคนทำทั้งหมด โดยมี นายเนวิน ชิดชอบ เป็นผู้ควบคุมสั่งการ

ส่วนการจัดม็อบคาราวานคนจนเข้าไปชุมนุมที่สวนจตุจักร เพื่อสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายเทพพนม กล่าวว่า มี นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นคนทำบัญชีจ่ายเงินค่าจ้างทั้งหมด ประมาณวันละกว่า 5 9 ล้านบาท ขณะที่ นายเนวิน เป็นผู้ส่งเสบียงอาหารให้กับผู้ชุมนุม

นายเทพพนม กล่าวต่อว่า ช่วงหลังตนมีปัญหาการทำงานกับนายเนวิน จึงแตกแยกกัน แล้วหันมาตั้งชมรมเครือข่ายประชาชนภาคอีสานพิทักษ์รัฐธรรมนูญขึ้น และร่วมกับ นายฉลาด วรฉัตร เรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง โดยรับค่าจ้างจาก พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ออกคำสั่ง

โดยตนมีหน้าที่เดินขบวนต่อสู้กับกลุ่มพันธมิตรฯ และหาคนไปเป็นพยานคดีร้องทุกข์กล่าวโทษต่างๆ ที่มีอดีตนายกฯ ทักษิณ เป็นโจทก์หรือจำเลย โดยผู้เป็นพยานตนจะเลือกคนที่มีการศึกษาสูง และเป็นผู้รักระบอบทักษิณเท่านั้น ซึ่งการทำงานตกลงกันว่าจะได้ค่าใช้จ่ายวันละ 100,000 - 200,000 บาท

ต่อมาเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจ ตนถูกเรียกไปรายงานตัวหลายครั้ง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนปัจจุบัน ขอให้ตนยุติบทบาทเพื่อความสมานฉันท์

นายเทพพนม กล่าวย้ำว่า ไม่เชื่อว่า ทหารจะรู้วิธีสมานฉันท์ที่แท้จริง ดังนั้น หากมีการเรียกพูดคุยเพื่อทบทวนการสมานฉันท์ภายในวันที่ 9 ธันวาคม ก็น่าจะเป็นการดี เพราะในวันที่ 10 ธันวาคมนั้น จะมีม็อบจากหลายส่วนเข้าไปป่วนรัฐบาล กระนั้นก็ตาม ทุกวันนี้ตนขึ้นตรงกับบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่มี นายพินิจ ทวีสุข เป็นพ่อบ้านคอยสั่งการในการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล

ตอนนี้นายเนวินยังอยู่ที่เมืองไทย และมีการต่อสายประสานงานสั่งการกลุ่มเครือข่ายเก่าที่เคยเคลื่อนไหวสนับสนุนทักษิณ ซึ่งได้เริ่มต้นจากม็อบโคนมในหลายจังหวัดภาคอีสาน เมื่อ 2 วันก่อน ที่เรียกร้องให้ปรับราคาน้ำนมดิบ นายเทพพนม กล่าว

นอกจากนี้ ยังเตรียมที่จะก่อม็อบเพื่อต่อสู้เรียกร้องเรื่องราคาข้าว

ซึ่ง นายอรรถฤทธิ์ สิงห์ลอ และนายคำตา แคนบุญจันทร์ แกนนำคาราวานคนจน จะมาร่วมเคลื่อนไหวด้วย และอีกสารพัดม็อบที่จะก่อกวนรัฐบาลใหม่ เช่น เรื่องมันสำปะหลังที่นครราชสีมา เรื่องเครือข่ายหนี้สินชาวนาที่สุรินทร์ เป็นต้น โดยมี นายเกษม รุ่งธนเกียรติ อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคไทยรักไทย เป็นผู้จ่ายเงิน

ทุกวันนี้ผมอยู่สบาย แม้จะนำม็อบก่อกวนรัฐบาลหลายต่อหลายครั้ง ไม่เห็น คมช.ทำอะไรเลย กฎอัยการศึกไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวสนับสนุนอดีตนายกฯทักษิณ นายเทพพนม กล่าว และว่า คุณหญิงพจมาน ชินวัตร สั่งเสมอว่าเราเป็นนักการเมือง นักเลือกตั้ง ถึงวันนี้แพ้ก็ต้องยอม แต่ทุกคนจะทำอะไรก็ได้ ฟรีสไตล์ คำว่าฟรีสไตล์ คือ สิ่งที่สั่งการให้ทำ คือ 1 คำถามว่าทำไม บ้านของเราถึงถูกมองไม่ดี ต้องมีการควบคุม มีกฎอัยการศึก มีเผด็จการ สิ่งเหล่านี้ก็นำมาสู่การเคลื่อนไหวของม็อบต่างๆ เริ่มจากม็อบโคนม นายเทพพนม กล่าว

ทั้งนี้ นายไทกร ได้กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนายเกษม ว่า มีการเรียกประชุมนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดสุรินทร์ และบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2549 ที่ผ่านมา และเคลื่อนไหวอย่างลงลึกใต้ดิน โดยมีอดีตรัฐมนตรีในระบอบทักษิณ เดินทางข้ามไปประเทศลาว และมีบ้านของพรรคคอมมิวนิสต์ดาวเขียว เป็นสถานที่ประสานงาน น่าอันตรายอย่างยิ่งหาก คมช.และรัฐบาลไม่ตรวจสอบอย่างใกล้ชิด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์