นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)
ให้สัมภาษณ์วันที่ 1 ธันวาคมกรณีบริษัทอันตน ผู้นำเข้าไม้จากประเทศพม่า เข้ามาทาง จ.แม่ฮ่องสอน โดยอ้างประกาศของกระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้ห้ามนำไม้ซุงและไม้แปรรูปเข้าทาง จ.แม่ฮ่องสอน แต่ห้ามเฉพาะ จ.ตาก และ จ.กาญจนบุรี เท่านั้น ว่า บริษัทจะอ้างเช่นนี้ไม่ได้ เพราะเมื่อปี 2546 ที่มีการลักลอบตัดไม้ในป่าสาละวิน เวลานี้กองไม้ของกลางก็ยังวางอยู่ที่ศูนย์การทหารม้า ม.พัน.2 จ.สระบุรี โดยในขณะนั้นตนเป็นรองนายกรัฐมนตรี และสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งหัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานสอบสวนเรื่องนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวมีนายสมชัย เพียรสถาพร อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ (หนึ่งในผู้ถูกตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงครั้งล่าสุดนี้ด้วย) เป็นกรรมการสอบอยู่ด้วย
"คณะกรรมการชุดดังกล่าวชื่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน และมีมติออกมาชัดเจนในขณะนั้นว่า ต่อไปนี้ห้ามไม่ให้มีการขนไม้ซุงและไม้แปรรูปเข้ามาในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน ตาก และกาญจนบุรี คำสั่งดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และในที่ประชุมนั้น อธิบดีสมชัยก็อยู่ด้วย จะมาอ้างว่าไม่ทราบคำสั่งนี้ไม่ได้"
เมื่อถามว่า บริษัทอ้างว่าการขนไม้สักผ่านพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติสาละวิน เป็นการผ่านในพื้นที่ที่เป็นป่าตองตึง ระยะทางเพียง 4.5 กิโลเมตร ไม่ใช่ป่าสมบูรณ์อย่างที่หลายคนเข้าใจ
นายสุวิทย์กล่าวว่า บริเวณนั้นเป็นป่าสงวนฯ และเป็นป่าสมบูรณ์ติดต่อกับพื้นที่ป่าแม่ปายฝั่งขวา ซึ่งทั้งเวลานี้และในอดีตมีปัญหาเรื่องการลักลอบตัดไม้และทำไม้เถื่อนอยู่มาก ถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงที่ไม่ควรผ่านและทำอะไรในพื้นที่แบบนี้อย่างเด็ดขาด สำคัญที่สุดคือ บริษัทไม่มีใบรับรองการทำไม้จากประเทศพม่า จึงไม่มั่นใจว่าที่แท้จริงแล้วไม้มาจากไหนกันแน่
นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า เจ้าของฉายามือปราบสาละวิน หนึ่งในผู้ถูกตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีการขนไม้จากประเทศพม่าเข้ามาใน จ.แม่ฮ่องสอน โดยผ่านพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติสาละวิน ให้สัมภาษณ์ว่า ทราบผ่านสื่อว่าถูกตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ แจ้งเข้ามาหลังถูกย้ายจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า มาเป็นผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะได้ตำแหน่งสูงขึ้น จากผู้ปฏิบัติการในพื้นที่มาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยอธิบดีกรมป่าไม้
"เหตุผลของการย้ายระบุว่า เพื่อความเหมาะสม แต่ผมก็ไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไม ต้องรอดูก่อน ส่วนเรื่องการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้เป็นห่วงอะไรเลย การทำงานย่อมมีข้อผิดพลาดและถูกสงสัยบ้าง คนที่ไม่ผิดพลาดคือพวกที่ไม่ทำงาน การได้ขึ้นชื่อว่าถูกตั้งกรรมการสอบอาจจะเจ็บปวดและถูกตั้งข้อสงสัยไปแล้วบ้าง แต่เมื่อผลสอบออกมาทุกอย่างก็จะกระจ่างแจ้งเอง ผมทำงานเรื่องการปราบปราม จนได้ชื่อว่าเป็นมือปราบสาละวิน ผมเข้าใจเรื่องนี้ดี และคิดว่ารัฐมนตรีสุวิทย์ (คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) คงมีเหตุผลบางประการเช่นกันที่ต้องทำแบบนี้"