ครม.อนุมัติงบ6พันล้านช่วยน้ำท่วม

เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 28 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯ แถลงภายหลังประชุมครม. ถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรที่ประสบภัยน้ำท่วมว่า ที่ประชุมรับทราบและอนุมัติหลักให้ความช่วยเหลือตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยจะช่วยเหลือได้เมื่อไหร่นั้นต้องรองบประมาณผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ก่อน

ซึ่งครม.จะนำเรื่องงบประมาณขึ้นมาหารือและพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจะได้นำร่างพ.ร.บ.งบประมาณเสนอสนช.ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ และคาดว่าจะผ่านการพิจารณาได้ จากนั้นประมาณต้นม.ค.2550 น่าจะเบิกจ่ายได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ครม.หารือถึงความช่วยเหลือเกษตรกรที่กำหนดว่าจะให้ความช่วยเหลือภายใน 3 เดือนนั้น ตนจะกำกับดูแลให้การช่วยเหลืออยู่ใน 3 เดือนตามที่กำหนดไว้

ด้านนายธีระ สูตะบุตร รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า นายกฯ ให้ความสนใจเป็นพิเศษในการช่วยเหลือเกษตรกร เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ ปรับความช่วยเหลือแก่เกษตรที่ทำนาเป็น 414 บาทต่อไร่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพราคาเมล็ดพันธุ์และปุ๋ย แต่เกษตรกรในพื้นที่ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่างประสบปัญหาน้ำท่วมขังอย่างรุนแรง

จึงควรช่วยเหลือเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ โดยใช้พื้นที่ผลผลิตที่เสียหาย คือการนับฐานความช่วยเหลือจากข้าว กำหนดความเสียหายที่ 413 ก.ก./ไร่ ให้ความช่วยเหลือก.ก.ละ 6.40 บาท ตามราคาจำนำข้าว เมื่อคำนวณแล้วอยู่ที่ประมาณ 2,600 บาท/ไร่ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเพียงครึ่งหนึ่งประมาณ 1,321 บาท/ไร่ และครม.ให้ความเห็นชอบตามมาตรการนี้

รมว.เกษตรฯ กล่าวต่อว่า รวมงบประมาณที่ใช้ช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วม ประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งการช่วยเหลือจะคิดค่าเฉลี่ยและให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์ไม่เหมือนกับการจ่ายประกันภัย อย่างไรก็ตาม มีพื้นที่การเกษตรเสียหายอย่างรุนแรงประมาณ 2 ล้านไร่ ส่วนการจ่ายให้กับเกษตกรนั้น กระทรวงเกษตรฯ จะมีคณะอนุกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรพิจารณาและนำเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ที่นายกฯเป็นประธาน เพื่อจะได้นำเรื่องประสานกับสำนักงบประมาณ เพื่อกำหนดในรายละเอียดต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและจริงจัง ให้การช่วยเหลือไปถึงผู้ที่ได้รับความเสียหายจริงๆ

นายธีระ กล่าวต่อว่า ส่วนการให้ความช่วยเหลือธุรกิจเกษตรเฉพาะ เช่น ผู้เลี้ยงสุกร ผู้เลี้ยงไก่ ธุรกิจกล้วยไม้ หรือธุรกิจพืชหายากนั้นจะมีคณะทำงานเฉพาะมาดูแลเพื่อประเมินค่าเสียหายและกำหนดมาตรการในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งนายกฯ ให้ความเห็นชอบที่จะนำเงินบริจาคมาให้ความช่วยเหลือในส่วนนี้ ส่วนกระทรวงเกษตรฯ จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินกู้ โดยอาจจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย การพักหนี้ เป็นต้น