´โอ๊ค-เอม´ ส่งทนายเข้าพบ คตส.

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ผู้รับมอบอำนาจจากนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรแล้ว เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อไปสอบถามว่าต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มขึ้น เพราะนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทาก็พร้อมจะมอบข้อมูลที่กรมสรรพากรขอมา

ส่วนใหญ่ที่ขอมาจะเป็นเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น โดยการเดินทางไปพบกรมสรรพากรครั้งนี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าทั้งสองคนพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ จึงแจ้งให้สื่อมวลชนรับทราบ จะได้ไม่ต้องไปรอทำข่าวในวันที่ 27 พ.ย. ซึ่งเป็นวันที่สรรพากรนัด ต่อข้อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ทั้งบุตรชายและบุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปพบกรมสรรพากรด้วยตนเองในอนาคต นายนพดลตอบว่า ได้ศึกษากฎหมายละเอียดแล้วว่า ทั้งสองมีสิทธิที่จะมอบอำนาจให้ตัวแทนไปดำเนินการแทนได้ ทั้งนี้เป็นเพราะอาจมีบางเรื่องที่ คตส.และกรมสรรพากรยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ ขณะนี้ แม้จะมีความเห็นทางกฎหมายที่แตกต่างกัน แต่นายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทาก็พร้อมจะให้ความร่วมมือ และพร้อมจะปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลฎีกา

นายนพดลกล่าวอีกว่า ภาษีจากการซื้อขายหุ้นชินวัตรฯของบริษัทแอมเพิล ริชนั้น คตส.ก็มีสิทธิที่จะแสดงความเห็น แต่ครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณก็มีสิทธิที่จะต่อสู้ เพราะซื้อขายหุ้นให้แอมเพิล ริชอย่างเปิดเผย มีเอกสารยืนยัน ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า คตส.ระบุว่าเป็นการซื้อขายหุ้นโดยตรงระหว่างแอมเพิล ริช กับเทมาเสก นายนพดลตอบว่า คตส.ก็มีสิทธิ์ที่จะคิด แต่ข้อเท็จจริงขึ้นอยู่กับเอกสาร

คุณศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร ก่อนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเคยบอกว่า ไม่ต้องเสียภาษีและเป็นการซื้อขายที่ถูกต้อง ดังนั้นการพูดของคุณศิโรตม์ขณะนี้ จะตรงกับเรื่องที่เกิดจริงหรือไม่ ต้องไปตรวจสอบกัน นายนพดลกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าครอบครัวชินวัตรมองว่ากำลังถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ นายนพดลตอบว่า ไม่อยากพูดเช่นนั้น เราเคารพแต่อยากให้ยึดมั่นในข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาของคุณหญิงพจมาน ชินวัตรนั้น เชื่อว่าอดีตนายกฯเป็นผู้มีความรู้มีประสบการณ์ คงให้ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวท่านได้ และผู้ที่จะเป็นคนสุดท้ายที่จะวินิจฉัยคือ ป.ป.ช.

นายนพดลกล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีการเสียภาษีของนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ นั้น นายบรรณพจน์ก็พร้อมพิสูจน์ข้อกล่าวหาจนถึงที่สุดปลายถนน คือคำสั่งของศาลฎีกาเช่นกัน หากปากน้ำเจ้าพระยาเป็นศาลฎีกา ขณะนี้ยังเดินหน้าไม่ถึงปากน้ำโพเลย ดังนั้น เมื่อรถไฟยังไม่ถึงชานชาลาอย่าเพิ่งกระโดดลง จากที่ได้ติดต่อกับนายบรรณพจน์ พบว่ายังไม่ได้รับเอกสารหรือคำสั่งใดๆจากกรมสรรพากรเลย และที่ผ่านมาก็เคยทราบว่าไม่มีภาษีต้องชำระ ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าหาก คตส.มีคำสั่งให้คืนภาษีนายบรรณพจน์จะสู้คดีหรือไม่ นายนพดลตอบว่า เป็นคำถามที่ดี แต่การจะพิสูจน์ว่าไม่มีเจตนาจะหลีกเลี่ยงภาษี ต้องดำเนินการโดยชั้นศาล จึงขอให้โอกาสนี้สร้างความเข้มแข็งให้กับกระบวนการยุติธรรม ในทางทฤษฎีสามารถจ่ายก่อนแล้วค่อยไปอุทธรณ์ได้ แต่ไม่ได้หมายความหรือด่วนสรุปว่า นายบรรณพจน์จะยอมจ่ายเงินก่อน เพราะพูดในแง่ทฤษฎีเท่านั้น ขอย้ำอีกครั้งว่ากรมสรรพากรไม่ใช่ที่สุดท้ายที่จะเป็นผู้สั่งให้เสียภาษี แต่ศาลจะเป็นผู้สั่ง

ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวถึงกรณีที่นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีต ส.ว.นครราชสีมา ออกมาระบุ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าตัดตอนยา เสพติดและปัญหาภาคใต้ว่า เป็นความพยายามโยงไปไกล มาก ทั้งนี้ อดีตนายกฯไม่เคยมีคำสั่งใดๆ ให้ไปฆ่าตัดตอน การพยายามโยงเช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม และไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการเดินทางกลับประเทศ ไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ขอแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ พ.ต.ท. ทักษิณอยู่แถวๆประเทศจีน และไม่มีกำหนดจะกลับเมือง ไทยในระยะนี้ ส่วนกรณีที่ รมว.กลาโหมออกมากล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังส่งน้ำเลี้ยงมายังเมืองไทยอยู่นั้น ขอชี้แจง ว่าไม่ได้ดำเนินการตามนั้น ไม่ได้มีการส่งท่อน้ำเลี้ยง

ท่านยังอยู่เมืองนอกตามปกติ ไปตีกอล์ฟ อ่านหนังสือ คมช.ไม่ต้องกังวล เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่ ปกติ ไม่ได้เคลื่อนไหวในทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น นาย นพดลกล่าวและว่า การที่อดีต ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่เด็กจะไปหาผู้ใหญ่ เป็นเรื่องความผูกพันที่มนุษย์มีต่อกัน จึงไม่อยากให้มีความหวาดระแวงต่อกัน ไม่ใช่การเคลื่อนไหวทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังยืนยันเหมือนเดิมหรือไม่ว่า หากรัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึก พ.ต.ท.ทักษิณก็จะกลับมาเมืองไทย นายนพดลตอบว่า ยังยืนยันเหมือนเดิม คือถ้าสถานการณ์ปกติ ก็เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าบ้านเรากลับสู่ภาวะปกติ พ.ต.ท.ทักษิณก็คงจะไม่ได้เดินทางกลับโดยทันที คงต้องมีการพูดคุยกันก่อน เพราะเราต้องการให้เกิดความสมานฉันท์

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องที่ประธาน คมช.ขอให้เวลาผ่านไป 1 ปี แล้วค่อยกลับประเทศไทยหรือไม่ นายนพดลตอบว่า ไม่ได้คุยเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ท่านจะพิจารณาในส่วนของท่านเอง อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป พ.ต.ท. ทักษิณขอวางมือและยุติบทบาททางการเมือง ซึ่งครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณก็อยากให้ท่านเลิก

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้หมาย ถึงอะไร นายนพดลตอบว่า หากยังร่างรัฐธรรมนูญไม่เสร็จ มีการยึดอำนาจ และสภาพที่ยังไม่รู้ว่าพรรคไทยรักไทยจะเป็นอย่างไร ท่านก็ขอวางมือ เข้าใจว่าการเลือกตั้ง พ.ต.ท. ทักษิณคงไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ต่อข้อถามว่า หากสถานการณ์ปกติก็พร้อมจะกลับใช่หรือไม่ นายนพดลตอบว่า

ในอนาคตค่อยมาถามตนอีกครั้ง ขอตอบเฉพาะปัจจุบันว่าท่านจะวางมือ ส่วนอนาคตตอบแทนไม่ได้เพราะท่านก็ยังเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยอยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีแนวโน้มว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปประเทศใดอีกหรือไม่ นายนพดลตอบว่า คงจะอยู่แถวๆเมืองจีน ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นสงครามจิตวิทยาหรือไม่ที่ยังวนเวียนอยู่แถวๆประเทศไทย นายนพดลกล่าวว่า ไม่ใช่ การออกรอบตีกอล์ฟคุณถือว่าเป็นการทำสงครามหรือ

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ