ที่อาคารรัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์
หลังที่นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เข้าพบ ว่า นายถวิลมารายงานภาพรวมจากการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่าการดำเนินการสอบสวนเรื่องต่างๆก็ยังคงเดินหน้าดำเนินการต่อไป เพียงแต่ต้องระมัดระวังอย่าเพิ่งไปยืนยันข้อเท็จจริงอะไร ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างประเทศ
เมื่อถามว่าแล้วจะทำอย่างไรระหว่างเรื่องของความมั่นคงในประเทศกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
เราต้องทำในสิ่งที่จำเป็นและถูกต้อง เพียงแต่การให้ข่าวขอให้ระมัดระวัง แต่ประเทศใดประเทศหนึ่งจะปล่อยให้ใช้สถานที่ในการฝึกกำลังและกระทบกระเทือนต่อประเทศเราไม่ได้
“ความจริงท่านนายกฯฮุนเซนก็ยืนยันว่าไม่ทำ แต่เราก็ต้องไปดูและตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากมีอะไรก็จะไปพูดกันโดยตรง และก่อนที่จะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศประสานไปทางรัฐบาลกัมพูชาเราต้องมีข้อมูลมาจากหน่วยงานที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนก่อน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่าแต่ตอนนี้รัฐมนตรีข่าวสารของกัมพูชาออกมากล่าวหาว่ารัฐบาลไทยไปกล่าวหารัฐบาลกัมพูชา นายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี รัฐบาลไทยยังไม่ได้ไปกล่าวหาใครเลย เป็นเรื่องการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ และวันนี้คงต้องรอให้ผลการดำเนินการออกมาก่อน
เมื่อถามถึงความชัดเจนเรื่องมีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปฝึกกำลังและอาวุธในกัมพูชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปก่อน ต่อข้อถามว่าแสดงว่ายังไม่มีความชัดเจนใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สรุป ทั้งนี้กัมพูชาเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี “ผมไม่ได้พูดว่าข้อมูลกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปฝึกอาวุธในกัมพูชาไม่ชัดเจน ผมบอกว่าวันนี้เจ้าหน้าที่เขาทำงานอยู่ การสืบสวนสอบสวนยังไม่เสร็จ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าข้อมูลหลักฐานในเรื่องดังกล่าวมีความชัดเจนแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังไม่ได้เข้าไปดูในตัวรายละเอียดการทำงานของเจ้าหน้าที่
แต่มีเรื่องของคำให้การต่างๆ ทาง ศอฉ.เองก็รายงานแต่ภาพรวมไม่ได้เอาสำนวนว่ามีพยานหลักฐานอะไรมาให้ดู เมื่อถามว่าเป็นเพียงคำบอกเล่าอย่างนั้นหรือ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ ผมยังไม่เห็นครับ ”