พรรคประชาธิปัตย์ส่ง 'บิ๊กเนม' อย่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ลงสมัครเพื่อรักษาเก้าอี้ส.ส. เนื่องจาก นายชุมพล กาญจนะ เจ้าของพื้นที่เดิมถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากตำแหน่งและตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีกรณีแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จต่อป.ป.ช.
ขณะที่พรรคเพื่อไทย ส่ง นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ แกนนำคนเสื้อแดง ลงสมัคร เพื่อหวังเช็กเรตติ้งและปลุกกระแสคนเสื้อแดงในพื้นที่ภาคใต้ฐานที่มั่นของพรรคประชาธิปัตย์ หวังผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงปีหน้า
ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ผู้สมัครจากทั้งสองพรรคเปิดใจถึงแนวทางการหาเสียงเพื่อพิชิตใจชาวบ้าน ดังนี้
วรวุฒิ วิชัยดิษฐ ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย
ผมเพิ่งได้รับหมายเลขเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมาขณะนี้หาเสียงไปได้เพียง 3 วัน ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ต่อไปนี้จะเดินลงพื้นที่ทุกวัน คาดว่าจะไปให้ครบทุกอำเภอ ถึงจะไม่ทุกหลังคาบ้านก็ตามเพราะเวลามีน้อย
จากการลงพื้นที่พบว่าชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้การต้อนรับอย่างดี เพราะคนสุราษฎร์ธานีเป็นคนดี เป็นนักประชาธิปไตย แยกแยะเรื่องต่างๆ ได้ ไม่มีปัญหาว่าจะอยู่สีเสื้ออะไรเพราะเขาเลือกที่ตัวบุคคล ส่วนที่มองว่าผมเป็นคนเสื้อแดงนั้นไม่มีปัญหาในการเลือกตั้งครั้งนี้เลย เพราะพี่น้องชาวสุราษฎร์ธานีรู้ว่าคนเสื้อแดงคือคนที่เรียกร้องประชาธิปไตยเรียกร้องความเป็นธรรม
ส่วนข้อกล่าวหาว่าคนเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้าย หลายคนถูกดำเนินคดีนั้น เชื่อว่าสักวันหนึ่งความจริงคงปรากฏว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เรื่องนี้ประชาชนรู้ดี สำหรับเวลาหาเสียงที่มีอยู่เพียงน้อยนิด จะใช้วิธีเดินไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่า หากผมได้คะแนนน้อย ฝ่ายตรงข้ามซึ่งได้คะแนนมากจะไม่สนใจประชาชน ฉะนั้นการให้คะแนนผมมากๆ ทำให้อีกฝ่ายหันมาหาประชาชนบ้าง จะเป็นผลดีกับประชาชน
จากการลงพื้นที่ 3 วัน ผมคิดว่าผมชนะเพราะประชาชนตอบรับดีมาก อีกอย่างเขาอยากเปลี่ยน เขาเบื่อการผูกขาด แต่คะแนนที่ได้จะมากน้อยแค่ไหน ไม่ขอประเมิน วิธีหาเสียงวันนี้ ผมลงพื้นที่เพื่อบอกความจริงกับประชาชน บอกความตั้งใจว่าจะไปรับใช้ประชาชน ไม่ใช่ไปเป็นนายประชาชน ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า 16-17 ต.ค.นั้นกระชั้นชิดมาก ลงสมัครเพียงสัปดาห์เดียวก็มีการเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว ผมมองว่าไม่เป็นธรรมเพราะนายสุเทพ เป็นรัฐบาล มีข้อได้เปรียบอยู่แล้ว เวลามีน้อยผมย่อมเสียเปรียบ สู้ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้ อีกอย่างไม่มั่นใจเรื่องหีบเลือกตั้ง เกรงจะมีการทุจริต เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของพรรคที่จะดำเนินการ ขอยืดเวลา ส่วนผมมีหน้าที่หาเสียง คิดว่าเลือกล่วงหน้า 23-24 ต.ค. น่าจะเหมาะสมกว่า
สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์
ผมตัดสินใจมาลงสมัครครั้งนี้มีการวิจารณ์ต่างๆ นานา การที่มีเวลาหาเสียงเลือกตั้งเพียง 20 วันจะต้องมีคนที่พี่น้องประชาชนไม่มีข้อสงสัย ไม่มีข้อกังวล และคนที่ลงสมัครเองไม่ต้องสงสัยว่าอยู่ได้กี่วันก็ไม่รู้ ยุบสภาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ความคิดนี้ทำให้พรรคเสนอชื่อผมลงสมัครเลือกตั้ง ผมไม่ได้เสนอเองเลย
วันนี้คนที่เป็นคู่แข่งเปิดเวทีปราศรัย และหยิบยกเอาเหตุการณ์ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.มาพูดบนเวที น่าเป็นห่วงว่าจะบิดเบือนข้อเท็จจริง เอาข้อมูลที่ไม่ใช่ความจริงมาพูด มาหาเสียง ผมเป็นผู้สมัครคนเดียวที่รู้เรื่องเหตุการณ์จริง ทุกวัน ทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ ดังนั้น ผมจะใช้เวทีพบกับประชาชนชี้แจงให้เกิดความชัดเจน เป้าหมายสำคัญที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ อยากให้บรรยากาศสวยสดงดงาม เป็นประชาธิปไตย
การหาเสียงเน้นนโยบายพรรคประชาธิปัตย์เป็นหลักที่เห็นเป็นรูปธรรม เช่น นโยบายเรียนฟรี 15 ปี นโยบายสาธารณสุขรักษาฟรีและการสร้างรายได้ให้ประชาชน การหาเสียงยังใช้รูปแบบเคาะประตูบ้านเดิมที่ใช้อยู่ จะมีวงพูดคุยกับประชาชน หากเป็นชุมชนใหญ่จะตั้งเวทีปราศรัย การเลือกตั้งครั้งนี้มันไม่ได้มีความหมายแค่เลือกผู้แทนเพียงหนึ่งคนเท่านั้น แต่มันมีความหมายต่อความเชื่อมั่นของนายกฯอภิสิทธิ์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ถ้าประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันน้อย คะแนนเสียงให้พรรคประชาธิปัตย์มีน้อย แม้จะชนะเลือกตั้งแต่จะถูกเอาไปขยายผล บอกว่าเห็นหรือไม่ อภิสิทธิ์เสื่อมแล้ว คนหมดศรัทธาแล้ว แม้ในพื้นที่ภาคใต้ที่เป็นฐานที่มั่นของพรรคก็เสื่อมลงแล้ว จะเกิดความเสียหาย
ฉะนั้น ถ้าประชาชนเห็นความสำคัญ ทุกคนยังมั่นคงในประชาธิปัตย์ นี่เป็นเหตุเป็นผล เป็นความสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมบอกว่าท่านนายกฯไม่ต้องห่วงการเลือกตั้ง ผมจะทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งครั้งนี้สวยสดงดงามอย่างแท้จริง
นายธงชัย วรรณะพิศิษย์ ผอ.สำนักงานการเลือกตั้งจังหวัดสุราษฎร์ธานี
หลังปิดรับสมัคร ทางกกต.เขตได้เชิญผู้สมัครทั้ง 2 พรรคมาชี้แจงถึงระเบียบ ว่าด้วยการหาเสียงที่ก่อให้เกิดปัญหาฟ้องร้องตามมาเมื่อผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว ซึ่งผู้สมัครจะต้องให้ความรู้แก่ผู้ช่วยและทีมงานหาเสียงเพื่อให้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบ
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือต่อ กกต.กลาง ขอให้เลื่อนการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 16-17 ต.ค.ออกไปนั้น ยอมรับว่าการกำหนดวันดังกล่าวเร็วจริง แต่หากจะให้มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงนี้คงไม่ทันเพราะจะทำให้เกิดความสับสน หากผู้สมัครคิดว่าจะเสียเปรียบก็ควรรณรงค์ให้คนไปใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้งจริง และหากไม่มั่นใจเกรงว่าจะมีการทุจริต ให้ส่งตัวแทนคอยสังเกตการณ์ได้
สำหรับการกำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้านั้นมาจากกกต.ส่วนกลาง เดิมกำหนดให้มีการเลือกตั้งจริงวันที่ 24 ต.ค. เลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 16-17 ต.ค. แต่ทางกกต.สุราษฎร์ธานีขอเลื่อนเป็นวันที่ 30 ต.ค.แทน เนื่องจากวันที่ 24 ต.ค. มีประเพณีชักพระทอดผ้าป่า แต่ไม่ได้ขอเลื่อนเลือกตั้งล่วงหน้าเพราะเกรงประชาชนจะสับสน การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ทางกกต.ได้รณรงค์ให้คนมาใช้สิทธิ์ให้มากที่สุดเพราะมีการจับตามองของคนทั้งประเทศ
สำรวจโค้งแรกชิงส.ส.สุราษฎร์ฯ
อีกไม่ถึง 20 วันจะถึงวันหย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 1 สุราษฎร์ธานี แทนตำแหน่งที่ว่าง ในวันเสาร์ที่ 30 ต.ค.