นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวอัยการยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดีหมายเลขดำ อ.2066/2553
ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อายุ 61 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระหมากษัตริย์ หรือ พระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีเมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม 2551 จำเลยนำคำปราศรัยของดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล จำเลยคดีดูหมิ่นสถาบัน ที่ศาลอาญา พิพากษาจำคุกแล้ว 18 ปี ที่พูดบนเวทีปราศรัย สนามหลวง เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2551 มาเผยแพร่ซ้ำที่ปราศรัยบนเวทีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์
นายกายสิทธิ์ กล่าวว่า ในคดีที่อัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว จะขอถอนฟ้องจะต้องมีเหตุผลหลายประการ
อาทิ ภายหลังจากยื่นฟ้องคดีแล้วปรากฏข้อเท็จจริงใหม่ว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด หรือเหตุผลอย่างอื่น อัยการจึงอาจพิจารณายื่นถอนฟ้องต่อศาล ซึ่งตามกระบวนการแล้วอัยการเจ้าของสำนวนเดิม ต้องตั้งสำนวนเสนอเหตุผลมาให้ตนพิจารณาว่าจะถอนฟ้องด้วยเหตุผลอะไร ซึ่งตนต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีความเห็นตามอัยการเจ้าของสำนวนหรือไม่ จากนั้นยังต้องเสนอไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาให้ความเห็นชอบด้วย จึงจะขอถอนฟ้องได้ และยื่นยันว่าคดีนายสนธิ อัยการไม่ได้ขอถอนฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้หลังจากที่อัยการยื่นฟ้อง และศาลได้อ่านอธิบายคำฟ้องให้ นายสนธิ จำเลยฟังแล้ว นายสนธิ จำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอัยการโจทก์ เตรียมพยานนำสืบต่อศาลจำนวน 14 ปาก ใช้เวลา 6 นัด ส่วนจำเลยเตรียมพยานนำสืบต่อสู้คดี จำนวน 10 ปาก ใช้เวลา 4 นัด ซึ่งศาลนัดสืบพยานโจทก์ปากแรก ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 เวลา 9.00น.