ศอฉ. ปัดข้อเสนอ”วีระ”ระบุทำไม่ได้ อ้างไม่มีอำนาจปล่อยตัวคนติดคุก
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 7 ต.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบกได้ประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ. )ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ผอ.ศอฉ.) เป็นประธาน โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 18.00 น.พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ. แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมหารือใน 3 ประเด็น คือ 1 เรื่องการจัดกิจกรรมการเมืองในช่วงเดือนตุลาคมมีหลายฝ่ายเป็นห่วงความปลอดภัยหรือความสบายใจของสังคม เพราะฉะนั้นเพื่อให้เกิดความสบายใจไม่เป็นกังวลของสังคม ศอฉ.กำหนดมาตรการต่างเช่นการตั้งจุดตรวจ จุดเฝ้าระวัง สายตรวจร่วมและเวรยามในแต่ละจุด และขอวิงวอนไปยังฝ่ายต่างๆที่จะเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมด้านการเมืองให้ทำกิจกรรมในกรอบกติกา และต้องขอบคุณที่ว่าการจัดกิจกรรมที่ผ่านมา นปช.จัดกิจกรรมที่อยู่ในกรอบกฎกติกา ทุกฝ่ายก็สบายใจและในวันที่ 10 ต.ค.เราก็หวังว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมในกติกาเหมือนเดิม
ประเด็นที่ 2 เรื่องการที่ ผอ.ศอฉ.ไปหารือกับผู้ว่ากทม.ได้ฝากผู้ว่ากทม.และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 กรณี
คือ1 การติดกล้องวงจรปิดทั่วกทม.ทั้งส่วนราชการหรือเอกชน ขอให้ผู้ว่ากทม.รับเป็นเจ้าของเรื่องในเรื่องการติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความร่วมมือในเรื่องการกำหนดพื้นทีเสี่ยงทั้งหลาย และ 2 การประสานงานเกี่ยวกับการใช้กำพลของสตช.และกทม.ในการป้องกันเหตุร้ายในพื้นที่ต่างๆให้สตช.เป็นเจ้าของเรื่องและกทม.ให้การสนับสนุน
ประเด็นที่ 3 เรื่องที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมารายงาน ว่านายกรัฐมนตีสั่งให้ 3 หน่วยงานคือ
กรมราชทัณฑ์ กรมสืบสวนคดีพิเศษ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ไปตรวจสอบเรือนจำ ทั้ง 17 แห่งทั่วประเทศ เพื่อดูว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจากการชุมนุมทั้งหลาย มีใครถูกควบคุมตัวโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายบ้าง เพราะนายกรัฐมนตรีและฝ่ายต่างของศอฉ.ชี้แจงมาตลอดว่า การนำเสนอข่าวทั้งในและนอกประเทศ มีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงว่า มีการคุมตัวแบบไม่ถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อความสบายใจจึงมอบให้ 3 หน่วย ไปตรวจสอบว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ชี้แจง ไม่มีการคุมตัวแบบไม่ถูกต้อง และจะมีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนไปร่วมตรวจสอบด้วย
“ที่ประชุมได้หรือรือเพิ่มเติมกรณีที่นายวีระ มุสิกพงษ์ แกนนำนปช.ได้ทำหนังสือเสนอผอ.ศอฉ.เรื่อแนวทางการปรองดอง 3 ประเด็น คือ แนวทางการปรองดองควรได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ และรวดเร็ว 2 ขอให้ปล่อยตัวคนเสื้อแดงเพื่อไปเคลื่อนไปตามธรรมชาติ แต่เรื่องนี้เป็นผลเสียมากกว่าผลดี ควรจะใช้พลังอันบริสุทธิ์ขอประชาชนที่นิยมประชาธิปไตยประคับประคองแนะนำการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงให้เป็นไปตามหลักการที่ถูกต้อง 3 การจำแนกนักเคลื่อนไหวทางสันติกับแนวทางรุนแรงให้แยกออกจากันชัดเจน อยากให้มีการประกันตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง 7-8 คนตามที่เป็นข่าว เรื่องนี้ทางผอศอฉ.และที่ประชุมเห็นชอบตรงกันว่าการดำเนินการทั้งหมดในการคุมตัวผู้ต้องหาเป็นขั้นตอนทางกฎหมายปกติ ไม่มีขั้นตอนของกฎหมายใดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของศอฉ.หรือพรก.ฉุกเฉินเลย ทั้งรัฐบาลและศอฉ.คงไม่สามารถไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงตามข้อเรียกร้องของนายวีระได้ ข้อเรียกร้องของนายวีระ จึงอยู่นอกเหนืออำนาจของศอฉ.ที่จะดำเนินการใดๆ