ในการไต่สวนของศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2553
กรณีที่นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินขอให้มีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวในคดีที่ นายปราโมทย์ โชติมงคล ผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้ฟ้องคดี และนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาสผู้ร้องสอด ยื่นฟ้อง คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่ากาฯ. กรณีออกคำสั่งยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งรองผู้ว่าการ สตง.ให้รักษาราชการแทนผู้ว่า สตง.โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น
คุณหญิงจารุวรรณ ได้ยื่นคำชี้แจงโต้แย้งคำชี้แจงของนายพิศิษฐ์มีใจความสรุปว่า การกระทำของนายพิศฺษฐ์ในช่วงที่ผ่านมาเป็นการข่มขุ่ คุกคามทั้งทางวาจาและการกระทำก่อให้เกิดความเกรงกลัวต่อข้าราชการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ชั้นผู้น้อยโดยทั่วไป ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลสร้างความเสียหายและกระทบการบริหารงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินอย่างร้ายแรง
นอกจากนั้น ยังเป็นว่า คดีดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลปกครองกลาง
สำหรับคำโต้แย้งของคุณหญิงจารุวรรณสรุปได้ดังนี้
1.คำร้องของผู้ร้องสอด(นายพิศิษฐ์) เป็นการกล่าวอ้างและให้ข้อเท็จจริงต่อศาลไม่ครบถ้วน พยายามให้ถ้อยคำเพื่อให้ศาลเห็นว่าผู้ถูกฟ้องคดีกระทำการโดยมิชอบ โดยอาศัยเพียงคำวินิจฉัยของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอ้างตนเองยังเป็นผู้รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดี กระทำการโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมายหลายประการ ทำให้ผู้ถูกฟ้องคดีได้รับผลกระทบจากการกระทำของผู้ร้องสอด เช่น
- การออกหนังสือเวียน ตผ.0004/พ2016 เรื่องซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลว 2 สิงหาคม 2553 และประกาศ สตง. เรื่อง คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลว 23 สิงหาคม 2553 ซึ่งเป็นการขัดขวางการทำงานของผู้ถูกฟ้องคดีที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ใช้อำนาจหน้าที่ประธานการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้โดยตรง
- ออกหนังสือบันทึกข้อความที่ ตผ 0004/พ242 ลว 13 กันยายน 2553 ให้ข้าราชการและลูกจ้างของ สตง. ถือปฏิบัติตามคำสั่งที่ 75/2552 เรื่องการแต่งตั้งรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินให้รักษาราชการแทนผุ้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเมื่อ 9 เม.ย.2552 ต่อไปโดยเคร่งครัด หากข้าราชการผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ถือเป็นความผิดวินัยข้าราชการและผู้กระทำการฝ่าฝืนจะต้องรับผิดชอบเป็นการส่วนตัวทั้งทางแพ่งและอาญา
-ออกหนังสือบันทึกข้อความที่ ตผ 0004/พ245 ลว 13 กันยายน 2553 เรื่อง การรักษาสถานที่และทรัพย์สินของทางราชการ โดยให้ ผอ.สนง.บริหารงานกลาง ดำเนินการยึดคืนยานพาหนะ พัสดุและครุภัณฑ์ที่ผู้ถูกฟ้องคดีครอบครองอยู่ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ตลอดจนห้ามการเข้าไปในบริเวณอาคาร สตง.โดยถือว่า ผู้ถูกฟ้องคดีได้พ้นจากตำแหน่งแล้วตามความเห็นของ คกก.กฤษฎีกาคณะที่ 1
ต่อมาได้มีหนังสือเร่งรัดให้ ผอ.สนง.บริหารงานกลาง ดำเนินการอีกครั้งในวันที่ 21 กันยายน 2553 พร้อมทั้งให้คิดค่าเสื่อราคาสินทรัพย์ด้วย ตามหนังสือบันทึกข้อความที่ ตผ 0004/พ256
- ออกหนังสือบันทึกข้อความที่ ตผ 0004/พ255 ลว 15 กันยายน 2553 เรื่อง การใช้ระบบไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โดยมีสาระให้ ผอ.สนง.เทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ ยกเลิกระบบไปรษรีย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้ถูกฟ้องคดี และเรียกคืนอุปกรรณ์คอมพิวเตอร์ที่ครอบครองอยู่ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
ต่อมาได้มีหนังสือบันทึกข้อความที่ ตผ 0004/พ263 ลว 29 กันยายน 2553 เร่งรัดให้ ผอ.สนง.เทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ ไปคาดโทษว่าหากปฏิบัติตามไม่ได้อาจต้องถูกโยกย้ายไปต่างจังหวัดและงดเลื่อนขั้นเงินเดือน ตามเอกสารที่ ตผ 0011/467 ลว 30 กันยายน 2553
-ออกหนังสือคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ สตง.จำนวนมากโดยผู้ร้องสอดได้แจ้งทางโทรศัพท์อ้างถึงการรักษาราชการของตน และให้ข้าราชการ สตง.ที่ถูกโยกย้ายต้องมารายงานตัวที่ผู้ร้องสอดเท่านั้นสำหรับข้าราชการที่อยู่ส่วนกลางทำให้เกิดปัญหาความสับสนต่อข้าราชการ สตง. ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีได้รับแจ้งทางโทรศัพท์กล่าวขอโทษจากข้าราชการเหล่านี้ว่า จำเป็นต้องปฏิบัติตามผู้ร้องสอดเพราะเกรงว่าตนจะถูกการกลั่นแกล้งกล่าวหาให้มีความผิดทางวินัยในการขัดขืนคำสั่งของผู้ร้องสอด
- ออกหนังสือคำสั่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่ 231/2553 สั่งให้นางสุดารัตน์ สุกาญจนะ ผอ.กลุ่มสำนักงานบริหารงานกลาง เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 8 ย้ายไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานวินัยทางงบประมาณและการคลัง ในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ทันทีอย่างเร่งด่วน ผิดปกติจากธรรมเรียมปฏิบัติโดยทั่วไปของ สตง.ในการให้ระยะเวลาในการปฏิบัติตามคำสั่ง โดยอ้างว่านางสุดารัตน์ สุกาญจนะ กระทำการอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ สตง.โดยไม่มีการสอบสวนข้อเท็จจริงแต่ประการใด