พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)
แถลงเมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ ตร.ว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 459/2553 ให้สำรองราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.เพ็ชร์ลูก เสียงก้อง ผบก.จ.ตาก กรณีมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมโดยมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้ใต้บังคับบัญชา จนเป็นข่าวเผยแพร่ทางสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน และมีคำสั่งที่ 453/2553 ลงวันที่ 27 กันยายน แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนพิจารณาทางวินัยอย่างร้ายแรง พล.ต.ต.เพ็ชร์ลูก มี พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นประธานคณะกรรมการโดยให้สอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน ทั้งผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหา สามารถขยายได้แต่ไม่เกิน 270 วัน อย่างไรก็ตาม ตร.จะเร่งรัดสอบสวนให้เร็วที่สุดภายใน 120 วัน
สำหรับกรณีนายตำรวจยศ พ.ต.ต.สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ที่ลักลอบมีความสัมพันธ์กับภรรยาผู้อื่น
ต่อมาสามีเข้าแจ้งความเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายนั้น ในวันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.กิตติ รุ่งเรืองวงษ์ ผบก.ภจว.สระบุรี เรียกตัว พ.ต.ต.บันเทิง กลมแก้ว สวป.สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี (ช่วยราชการกองกำกับการตำรวจภูธรสระบุรี) มาเซ็นทราบคำสั่งที่ 256/2553 ลงวันที่ 28 กันยายน 2553 ให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อให้ พนักงานสอบสวนของจเรตำรวจ ชุดสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 1 และชุดสอบสวน ของ กก.จว.สระบุรีสอบสวนตามหลักฐานต่อไป
พล.ต.ต.กิตติกล่าวว่า ได้สอบสวนพยานไปแล้วมากกว่า 10 ปาก พร้อมทั้งสามีภรรยา ผู้เสียหาย
ได้นำหลักฐานมามอบให้ตำรวจชุดสอบสวน มีทั้งแผ่นซีดี และภาพถ่าย ที่ถ่ายทำไว้ที่โรงแรมอากาศดี ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี สถานที่เกิดเหตุ วันเกิดเหตุ ทั้งหมดมามอบให้พนักงานสอบสวนแล้ว พร้อมสอบสวนพยานบุคคลเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง หากระบุได้ว่า พ.ต.ต.บันเทิง กลมแก้ว สวป.สภ.พระพุทธบาท มีความผิดวินัยอย่างร้ายแรงจริง จะถูกไล่ออกจากทางราชการ
ขณะที่ น.ส.จินตนา นาหนองตูม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 หมู่ 12 ต.ท้ายทุ่ง อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เจ้าหน้าที่ บริษัทจัดไฟแนนซ์ ของบริษัทแห่งหนึ่ง
เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ประทีป ไพบูลย์ ร้อยเวร สภ.เมืองพิจิตร ว่า ถูกนายตำรวจยศ ร.ต.อ. สภ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ดูถูกเหยียดหยาม และขู่มขู่ให้ตกเป็นเมียน้อย โดย ร.ต.อ. คนดังกล่าวเป็นลูกค้านำรถยนต์มาเข้าไฟแนนซ์ และเกิดชอบพอกันตั้งแต่เดือนกรกฎาคม มาทราบทีหลังจากปาก ร.ต.อ. ว่ามีภรรยาอยู่แล้ว จึงขอให้ ร.ต.อ. เลิกติดต่อ แต่ ร.ต.อ.ไม่ยอมเลิกรา พยายามโทรศัพท์มาหาทั้งในและนอกเวลาทำงาน และยื่นข้อเสนอให้เลือก 2 ทางคือ 1.เป็นเมียน้อยแบบไม่มีลูก 2.เป็นเมียน้อยแต่ต้องมีลูกและจะส่งเสีย หากไม่ยอมรับข้อเสนอจะต้องโดนปืน .357 จึงทำให้ น.ส.จินตนาหวาดกลัวมากเนื่องจากถูก ร.ต.อ.ขู่ไม่เป็นอันทำงาน
น.ส.จินตนากล่าวด้วยว่า เตรียมทำหนังสือร้องเรียนถึง พล.ต.ต.เชาวลิต ชาญเวช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร เพื่อขอความเป็นธรรม
ขอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบพฤติกรรม และอยากเรียกร้องขอให้ย้าย ร.ต.อ. ออกนอกพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้ง จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากผู้แจ้งยังไม่ประสงค์ที่จะให้ดำเนินคดี