นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานีว่า
เผยได้รับรายงาน บึ้มอัยการสูงสุดแล้ว เชื่อโยงการเมือง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เข้ารายงานสถานการณ์และความคืบหน้าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีการรายงานค่อนข้างละเอียด ซึ่งมีความพยายามเชิงรุกและขยายผลจากข้อมูลที่มีอยู่ น่าจะทำให้หลายสิ่งหลายอย่างดีขึ้น รวมถึงการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษส่วนล่าสุดที่เกิดเหตุระเบิดที่สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับรายงานแล้ว แต่ยังไม่ได้รายละเอียดว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิด 4 เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เพราะต้องดูรายละเอียดก่อน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี เห็นว่า มีความชัดเจนในเรื่องของกลุ่มคน ทั้งเรื่องของรูปพรรณสัณฐาน และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งมีบางเหตุการณ์ที่เคยบอกไว้มีความเกี่ยวโยงกันได้ และเป็นเรื่องที่น่าจะเชื่อมโยงการเมือง จึงน่าจะทำให้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวผู้กระทำผิด และความเชื่อมโยงอยู่บ้าง กำลังขยายผล และพอรู้แล้วว่ามีการซื้ออุปกรณ์ที่ไหนอย่างไร
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เหตุที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่อธิบดีดีเอสไอระบุว่า จะมีการเหตุระเบิดไปจนถึงสิ้นปี นั้น ก็ต้องพยายามไม่ให้เป็นเช่นนั้น ซึ่งมาตรการเชิงรุกและการขยายผลกรณีต่างๆในอดีตจะเป็นหัวใจสำคัญ นอกจากนี้การคาดโทษเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ก็มีส่วนช่วยให้เจ้าหน้าทีเพิ่มความเข้มงวดในการทำงานได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามยังมีความเป็นห่วงว่าจะมีการเปลี่ยนเป้าก่อเหตุจากกระทำในเชิงสัญลักษณ์มาทำร้ายประชาชน
ซัด "ตู่" ไม่เหมาะแสดงนิสัยขู่ศาลคดีปชป. หวังศาลฯพิจารณาตามข้อเท็จจริง รักษาระบบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ออกมาในลักษณะข่มขู่ศาลเกี่ยวกับการตัดสินคดีพรรคประชาธิปัตย์ ว่า คงจะเป็นนิสัยของเขา ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นแรงกดดันในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หวังว่าศาลจะพิจารณาไปตามข้อเท็จจริง เพราะถ้าเราให้มีการกดดันอยู่ตลอดเวลา ในที่สุดมันจะทำให้ระบบเสีย
เชื่อ ให้ทีโอทีพัฒนาระบบ 3 จี ส่งผลคนไทยได้ใช้เร็วขึ้น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ทีโอทีพัฒนาระบบ 3 จี ว่า มีส่วนทำให้การใช้ระบบ 3 จี มีความรวดเร็วมากขึ้น จริงๆ แล้ว ตัวโครงข่ายที่เป็นโครงข่ายหลัก ขณะนี้รัฐพยายามเร่งรัดและมีหลักคิดอยู่แล้ว เรื่องการไม่ให้ลงทุนซ้ำซ้อนและเดินหน้าในการลงทุนเท่าที่จะทำได้ส่วนหนึ่ง ฉะนั้น จริงๆ แล้ว จะมีส่วนได้บ้างแต่คงไม่สามารถจะมาทดแทนความชัดเจนในเรื่องการประกอบการ เกี่ยวข้องกับ 3 จีทั้งหมดได้
อย่างไรก็ตาม การลงทุนครั้งนี้ จะคุ้มค่าหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประเมินแล้วผลตอบแทนอะไรต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ดีและมีการปรับตัวเลขลงมาเทียบกับ เมื่อปี 51 จะเห็นได้ชัดว่าใช้เงินน้อยกว่าและ บริการเยอะกว่า แต่เรื่องของการประกอบการเป็นอย่างที่เรียนไปแล้วว่า ทำลักษณะของค้าส่งไม่ใช่ค้าปลีก ซึ่งจะต้องมีบริษัทและผู้ประกอบการพันธมิตรอื่นๆ เข้ามาร่วมด้วย ส่วนจะถูกต้องหรือไม่ กับการที่ตั้งบริษัทลูกขึ้นมาแข่ง ต้องดูกติกากันอีกทีหนึ่งในการกำกับ