เวลา 19.00 น.วันที่ 19 กันยายน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
เดินทางถึงเวทีประชาธิปไตย 19 กันยา ตาสว่างทั้งแผ่นดินที่เชียงใหม่ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลเห็นแล้วว่าที่ราชประสงค์และ จ.เชียงใหม่ว่า คนเสื้อแดงออกมามากมายแค่ไหน ตราบใดที่รัฐบาลยังฆ่า ไล่ล่าฆ่ากราร์ด นปช.ประชาชนไม่ยอม การใส่ร้าย คุมขังแกนนำ วันนี้รัฐบาลได้เห็นแล้ว่าแม้ไม่มีแกนนำแต่เขาก็ออกมาชุมนุม เป็นการแสดงจุดยืนว่าไม่กลัวตราบใดที่ยังไม่ได้รับความยุติธรรม
"กลุ่มพันธมิตรทำผิดในเรื่องและประเด็นเดียวกัน แต่การดำเนินคดีตลอด 2 ปี ไม่มีการขยับ ในขณะที่แดงโดนเต็มๆ วันนี้ไม่มีแกนนำแดงก็ออกมาแสดงพลังได้มากกว่าเดิม เพราะประชาชนเติบโตและรู้ว่ากำลังต่อสู้กับอะไร มีจุดยืนแน่ชัด หากรัฐยังนิ่งเฉยก็จะยิ่งออกมาให้หนักกว่านี้ ผมขอเตือนรัฐบาล ขบวนการยุติธรรมทำหน้าที่ไม่ได้ มีแต่การอ้างสถาบันปกป้องตนเอง คุ้มกะลาหัวตัวเอง เท่ากับรัฐบาลทำลายสถาบันเอง"
นายจตุพร กล่าวว่า เดินหน้ายื่นฟ้องนายอภิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและพวก
โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีต่อศาลโลกแผนกคดีอาญาระหว่างประเทศแน่นอนในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะขณะนี้ขบวนการยุติธรรมไทยพินาศหมดแล้ว ไม่ว่าจะดีเอสไอหรืออัยการสูงสุดถือว่าคือฆาตกรร่วมด้วย เพราะการสอบสวนคดีฆ่าประชาชน 91 ศพ ไม่เคยมีการสอบพยาน หรือชันสูตรอะไร ถือว่าดีเอสไอปัญญาอ่อนมาก เราจึงต้องเดินหน้าต่อคาดไม่เกินเดือนตุลาคมหลังสำนักงานทนายความอัมสเตอร์ดัมฯ เก็บข้อมูลมาแล้วกว่า 4 เดือน"
นายจตุพร กล่าวว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอาจไม่มีเพราะอาจจะไม่สดวก ซึ่งคนเสื้อแดงเข้าใจดีว่าหากสะดวกวันไหนก็โฟนอินมาหากไม่ก็ไม่เป็นไร ส่วนคนอื่นๆ ก็ควรจะให้เขาปลอดภัยไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกำหนดการเดิมที่จะมี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาเป็นประธานในการรวมพลังแสดงกิจกรรม
แต่ล่าสุดได้มอบหมายให้นายจตุพรเป็นตัวแทนดำเนินการเองทั้งหมด โดยจะมีการปล่อยโคมไฟลูกสีแดงขึ้นสู่ท้องฟ้าหลังการปราศรัยท่ามกลาง ส.ส.อาทิ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายสงวน พงษ์มณี และ ส.ส.ในพื้นที่อีกหลายคน