จวกทำงานเชิงรุกขาดประสิทธิภาพ มัวสร้างภาพมากกว่าให้ข้อเท็จจริง ทำผู้ติดเชื้อไข้เลือดออกเพิ่มเกือบ100%
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ สส.กทม.ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานปราบโกง (สปก. 4-01) แถลงว่า พรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์การระบาดของไข้เลือดออกและไข้หวัด 2009 จากกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาที่พรรค พบว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของการแพร่ระบาดของโรค เพราะรัฐบาลแทบจะไม่ได้นำเสนอข่าวและข้อเท็จจริงที่กำลังวิกฤตอยู่ในขณะนี้ เพื่อให้ประชาชนรู้จักระมัดระวังตัวไม่ให้ติดเชื้อหรือกลายเป็นพาหะนำโรคแก่ผู้อื่น จึงทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากยอดผู้ป่วยไข้เลือดออกตั้งแต่เดือน ม.ค.ถึงปัจจุบันสูงเกือบ 6 หมื่นคน และเสียชีวิตแล้วกว่า 80 คน โดยมีอัตราผู้ป่วยสะสมเทียบกับปีที่แล้วเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 100 % ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของการทำงานเชิงรุกที่ขาดประสิทธิภาพ และการเน้นการสร้างภาพมากกว่าการให้ข้อเท็จจริง
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้พรรคได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลจากโรงพยาบาลของรัฐในจังหวัดทางภาคอีสาน พบว่าขณะนี้ในห้องไอซียูเต็มไปด้วยผู้ป่วยหนักในสองโรคนี้ และมีเด็กที่ป่วยหนักด้วยไข้หวัด 2009 ที่แม้จะได้รับยาต้านไวรัส แบบโอเซลทามิเวียร์ เข้าไปแล้วก็ไม่ทำให้อาการดีขึ้น คาดว่าอาจเกิดจากการดื้อยา เนื่องจากแพทย์สามารถเบิกยาไปใช้ที่คลินิกได้โดยไม่มีมาตรการควบคุม และจะทำให้เหลือยาเพียงชนิดเดียวที่ใช้รักษาคือยาต้านไวรัส แบบซานามิเวียร์
“หากรัฐบาลยังคงใช้นโยบายที่ไร้มาตรฐานในการควบคุมการใช้ยาอย่างที่เป็นอยู่นี้ ในที่สุดเราอาจไม่เหลือยาที่จะใช้รักษาไข้หวัด 2009 อีกเลยก็ได้ อีกทั้งในโรงพยาบาลที่คณะทำงานลงไปตรวจสอบยังพบว่ามีเด็กที่เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และมีผู้ป่วยอาการหนักจากทั้งสองโรคนอนกันอยู่จำนวนมากจนโรงพยาบาลไม่สามารถจัดเตียงให้ทุกคนนอนได้และผู้ป่วยหลายคนต้องนอนที่พื้น ผมเชื่อว่าโรงพยาบาลอื่นๆ แม้กระทั่งของเอกชนก็คงประสบปัญหาคนป่วยล้นโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว.