กินช็อกโกแลตดำวันละนิดพิชิตโรคหัวใจ
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียนโดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2549 12:59 น.
บรรณวิทย์ เฉ่ง มีชัย ชี้นำจี้ให้ขอโทษต่อสภานิติบัญญัติฯ เหตุทำภาพลักษณ์เสียหาย กลายเป็น สภาฟักตัว-เป็ดง่อย ถูกครอบงำ ขู่อย่าให้ต้องถึงขั้นลงชื่อขับไล่พ้นเก้าอี้ประธานเลย ข้องใจ จาตุรนต์ เปิดประเด็นทหารคุกคามอดีต ส.ส.ทรท.มีนัยแอบแฝง โต้ไม่มีทหารไปแบล็กเมล์นักการเมืองแน่
วันนี้ (16 พ.ย.) พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยถึงกรณีที่ออกมาตำหนินายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสนช.ถึงเรื่องการตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาเสนอรายชื่อสมาชิกดำรงตำแหน่งกรรมาธิการสามัญประจำสภาว่า ในการประชุม สนช.ก็มีระเบียบปฏิบัติอยู่แล้วว่าผู้ที่เสนอต้องเป็นสมาชิก ท่านประธานจะเสนอไม่ได้ เพราะถ้าจะเสนอต้องลงมานั่งใช้สิทธิ ลงมาจากบัลลังก์ของประธาน การเสนอเช่นนี้เหมือนเป็นการชี้นำ เพราะเป็นคนกำหนดว่าจะให้ใครพูด เมื่อมากำหนดเสียเอง ก็ไม่ใช่การประชุมที่ถูกต้อง ท่านทำไม่ถูกระเบียบปฏิบัติ เรื่องนี้จริงๆ ไม่ได้สำคัญอะไร แต่ปล่อยผ่านไม่ได้ เพราะประชาชนจะมองว่า เป็น สภาฟักตัว เพราะเค้าตั้งคณะทำงานเพื่อไปจัดคนลงในคณะกรรมาธิการต่างๆ ตนและสมาชิก สนช.ก็ยกมือคัดค้านตั้งแต่แรกแล้ว แต่ท่านไม่ยอมให้พูด
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่านายมีชัยกำหนดคนไว้แล้ว โดยเสนอคณะทำงานฯให้เรียงตามอาวุโสเรื่องอายุ ถือว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม ใช้อำนาจไม่ถูกต้อง เพราะบัญชีลำดับอาวุโสนั้น ไม่มีใครรู้หรอกว่า แต่ะลคนอายุเท่าไหร่ สมาชิกจะไม่รู้ แต่นี่ท่านนำรายชื่อที่เตรียมไว้มาอ่านเลย ทำให้ภาพออกมาว่า เป็นสภาที่ถูกชี้นำโดยตัวประธาน อย่างนี้มันไม่ใช่สภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว
ผมว่า ประธาน (นายมีชัย) น่าจะดำเนินการประชุมให้ประชาชนเห็นว่าสภาแห่งนี้ทำประโยชน์ที่แท้จริงให้กับประเทศชาติ แต่ปัจจุบันนี้ยังไปไม่ถึงไหนเลย คณะทำงานก็ไม่มี คณะกรรมาธิการก็ยังไม่มี ที่ปรึกษาก็ไม่มี เลยทำงานอะไรกันไม่ได้ เลยกลายเป็นแค่ สภาเป็ดง่อย เราจะทำการขุดคุ้ยหาความจริงเพื่อให้ประชาชนรับรู้ไม่ได้เลย นี่ผ่านไปเดือนนึงก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แถมประธานยังมาทำพฤติกรรมที่น่าอับอายเช่นนี้อีก ท่านอาจมั่นใจใน 167 เสียงที่เลือกท่าน แต่ต้องคำนึงถึงด้วยว่า ขนาด 16 ล้านเสียงของ บางคน ตอนนี้ยังต้องไปเดินเล่นที่บาหลีเลย อย่าให้ถึงต้องลงชื่อขับไล่ออกจากตำแหน่งกันเลย เพราะหลายคนก็บอกผมว่า ทำกันแบบนี้ต้องลงชื่อขับไล่กันแล้ว พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าว
สมาชิก สนช.ผู้นี้ กล่าวด้วยว่า ที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ นายมีชัยตั้งคนสูงอายุมาทำงาน แต่ต้องยอมรับว่า เรื่องสุขภาพจะเป็นการทรมานคนแก่หรือไม่ เพราะเท่ากับไปเพิ่มภาระงานในการจัดคนไปลงในคณะกรรมาธิการ ซึ่งเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทั้งนี้หลังจากตนต่อว่าในสภาเมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) นายมีชัยก็เฉยๆ และข้ามไปพิจารณาเรื่องอื่นเลย เรื่องนี้ตนและเพื่อนสมาชิก จะทำหนังสือถึงประธานสภา สนช.เพื่อขอให้ทบทวนการกระทำของท่าน เพื่อให้ขอโทษต่อสภาฯ โดยชี้แจงให้เห็นว่า ท่านมีการเตรียมการมาล่วงหน้าแล้ว และทำให้ภาพลักษณ์ของ สนช.ไม่สง่างาม โดยภายใน 1-2 วันนี้จะมีการทำหนังสือไปถึง หากไม่ทบทวน ก็จำเป็นต้องเล่าให้สมาชิก สนช.ได้ฟังในสภาอีกครั้ง และอาจไปถึงขั้นทำหนังสือขับไล่กันก็ได้
เราไม่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพราะเรากำลังทำเรื่องศีลธรรมและคุณธรรมให้กับสังคม ดังนั้น เราก็ต้องทำให้เห็นว่า อะไรเป็นสิ่งที่ผิดก็ต้องกล้าพูดให้สาธารณชนรับทราบ ต้องกล้าพูด-กล้าทำ ทำให้เป็นแบบแผนเลยว่า ใครทำผิดต้องถูกสังคมประณาม เพราะปกติผมเองก็ไม่ใช่คนลุกขึ้นอภิปราย แต่เมื่อวานนี้อดไม่ไหวจริงๆ ไม่ใช่ปล่อยให้มาปู้ยี้ปู้ยำสภา สนช.ได้ง่ายๆ ตอนนี้ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่า มีการรับใบสั่งมาจากใครหรือไม่ เพราะมันไม่ใช่เรื่องอุบัติเหตุแน่ๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็มีการล็อกตัวประธานกันมาแล้ว เป็นคำถามที่คนสงสัยกันมาก พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ออกมากล่าวหาทหาร ว่าไปคุกคามอดีตส.ส.ของไทยรักไทย รวมถึงการไปเบ่งกินฟรีและเปิดห้องพักในโรงแรมต่างๆ ว่า นายจาตุรนต์พูดผิดหรือไม่ เพราะหากจำกันได้ สมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว (รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร) มีแต่ทหารถูกกระทำ การเมืองมารังแกทหารตลอด ทำให้ตนถึงกับต้องออกมาคัดค้านเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย แต่วันนี้แค่เปลี่ยนรัฐบาลใหม่เพียงเดือนเศษๆ จู่ๆ จะมาเปลี่ยนแบบที่นายจาตุรนต์ว่าคงเป็นไปไม่ได้แน่
เรื่องเปิดห้องพักแล้วให้อดีต ส.ส.จ่ายนั้น ทหารไปไหนเค้าก็เบิกจ่ายได้อยู่แล้ว ที่สำคัญคือ รัฐบาลชุดที่แล้ว เพิ่งหมดอำนาจไปเดือนเศษๆ จะกลับหัวกลับหางแบบนี้ เป็นไปได้หรือ นายจาตุรนต์อาจพูดแบบมีนัยแอบแฝงหรือไม่ก็ได้ ผมเชื่อว่าการเปิดประเด็นนี้ต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ เชื่อว่ากองทัพต้องออกมาชี้แจง เพราะถ้าไม่ชี้แจงก็เท่ากับยอมรับไปโดยปริยาย และถ้าเป็นจริงคนจะกังขากันมาก ขอยืนยันว่า ทหารที่จะไปทำลักษณะเช่นนี้ มีน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่ก็มีบ้านพักอยู่ในกรม กอง กันอยู่แล้ว แต่ประเภทไปข่มขู่ ตบทรัพย์แบล็กเมล์นักการเมืองคงไม่น่าจะมีแน่ เหมือนกับที่ว่าโจรจะไปตบทรัพย์ตำรวจนั้นทำได้หรือ ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าว