"มาร์ค"เมิน ทนาย"วิคเตอร์ บูท"ขู่ฟ้องกลับ ยันยึดตามกระบวนการศาล รับหนักใจแรงกดดันจากมหาอำนาจ ย้ำเรือนจำคุมเข้ม...
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 27 ส.ค.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทนายความของนายวิคเตอร์ บูท ผู้ต้องหาคดีค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย จะทำหนังสือคัดค้านการส่งตัวไปสหรัฐอเมิรกาผ่านนายกฯว่า เข้าใจว่าขณะนี้น่าจะเป็นเรื่องของคดีที่สองมากกว่า คือคดีที่สองเบื้องต้นทางสหรัฐฯแจ้งมาทางกระทรวงการต่างประเทศเพื่อที่จะขอถอนคดีแต่การถอนต้องทำโดยอัยการ ขณะเดียวกันข้อกฎหมายเป็นดุลยพินิจของศาลว่าการถอนจะต้องฟังจากฝ่ายจำเลยก่อนหรือไม่ เป็นดุลยพินิจของศาลว่าจะให้ถอนหรือไม่ ถ้าไม่ให้ถอนก็ต้องให้คุมขังอยู่ที่ไทยเพื่อดำเนินคดีที่สองให้เรียบร้อยก่อน และจะมีประเด็นว่าจะขยายระยะเวลาการส่งตัวออกไปจาก 3 เดือนหรือไม่
ส่วนจะถึงขั้นที่รัฐบาลต้องใช้ดุลยพินิจหรือยัง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยัง คิดว่าขณะนี้ที่คุยกันเป็นเรื่องของกระบวนการในส่วนของกฎหมายและคดีในศาลให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะหากคดีที่สองยังค้างคาอยู่ก็ยังส่งตัวไปไม่ได้ ส่วนการจะถอนคดีที่สองหรือไม่ ทางสหรัฐฯต้องแจ้งไปทางกระทวงต่างประเทศแจ้งไปยังอัยการและทำเรื่องถึงศาล ขณะเดียวกันฝ่ายจำเลยอาจจะคัดค้านการถอนคดีของสหรัฐฯ และศาลจะต้องใช้ดุลยพินิจว่าจะให้ถอนหรือไม่ ขณะนี้เรื่องของการขอถอนคดีสหรัฐฯส่งมาที่กระทรวงการต่างประเทศแล้ว จะส่งให้อัยการ ส่วนจะใช้เวลานานได้ทัน 90 วันก่อนส่งตัวหรือไม่นั้นถ้าจำไปไม่ผิดศาลนัดพิพากษาวันที่ 4 ต.ค.แต่ไม่ทราบว่าศาลจะพิจารณาการขอถอนคดีที่สองอย่างไร
ด้านความเป็นไปได้ในการพิจารณาของรัฐบาล ไม่ให้ส่งตัวนายวิคเตอร์ บูท ไปสหรัฐฯตามคำขอของทนายนายวิคเตอร์ บูท เป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราควรจะดูกระบวนการและคำตัดสินของศาลเป็นหลัก แต่โดยปกติแล้วมักจะให้น้ำหนักต่อคำวินิจฉัยของศาลเป็นหลัก
มาร์คเมิน ทนายวิคเตอร์ บูทขู่ฟ้องกลับ
ส่วนปฏิกิริยาจากรัสเซีย โดยเฉพาะ รมว.การต่างประเทศ ที่ออกมาวิจารณ์ว่าการตัดสินในไทยมีการแทรกแซงจากทางสหรัฐฯ นั้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนตัวที่บ่งชี้ได้ดีว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นคือว่าถ้าสหรัฐฯเข้ามาแทรกแซงกดดัน และมั่นใจว่าจะชนะคดี เหตุใดจึงไปขอยื่นฟ้องคดีที่สอง เพราะก็น่าจะรู้ว่าการยื่นคดีที่สองจะทำให้ยังไม่สามารถส่งตัวในคดีแรกได้ ด้านหนักใจกับแรงกดดันจากประเทศมหาอำนาจทั้งสองประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราก็หนักใจเพราะสองประเทศเป็นมิตรประเทศที่มีความสำคัญแต่เราต้องทำให้ดีที่สุดตามความเป็นจริง และความจริงฝ่ายบริหารไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว
ส่วนที่ทางทนายความของนายวิคเตอร์ บูท จะอ้างกฎหมายในสนธิสัญญาว่า ผู้ต้องหาสามารถที่จะเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของประเทศนั้นๆยับยั้งการส่งตัวได้
ถ้ามีการเสนอมารัฐบาลจะพิจารณาหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องขอดูก่อนว่าเขามีเหตุผลอะไร แต่โดยหลักของกฎหมายระหว่างประเทศ ฝ่ายบริหารเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจสุดท้าย แต่ว่าขณะเดียวกันการใช้ดุลยพินิจของฝ่ายบริหารส่วนใหญ่มันทำกันในช่วงก่อนกระบวนการศาลบ้าง ในอดีตก็มีกรณีทั้งส่งหรือไม่ส่งกับประเทศต่างๆไม่ได้พูดถึงประเทศไทย
ด้านการที่ ทางทนายความของนายวิคเตอร์ บูท พูดทำนองขู่ว่าถ้าส่งตัวไปสหรัฐฯแล้วศาลสหรัฐฯตัดสินว่าไม่ผิดจะมีการเรียกร้องค่าเสียเอากับรัฐบาลไทยที่ส่งตัวไปให้สหรัฐฯ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่มีประเด็นนั้น คือทั้งหมดเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ยืนยันประเทศไทยเคารพสนธิสัญญา กฎหมายระหว่างประเทศ ดำเนินการทุกอย่างตรงไปตรงมาคำนึงถึงผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ในชั้นนี้ต้องให้กระบวนการศาลชัดเจนก่อน