ป๋าเปรม ออกโรงปลุกจิตสำนึกคนไทย

"โอบอุ้มรัฐบาล"


ท่ามกลางกระแสการเมืองที่รุมกระหน่ำรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) โดยเฉพาะประเด็นเรื่องไม่มีผลงานที่เด่นชัด

และไม่ยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึก ทำให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ต้องออกมาโอบอุ้มรัฐบาล และคมช.อีกครั้ง โดยเปรียบ พล.อ.สุรยุทธ์เหมือนเซอร์วินสตัน เชอร์ชิล รัฐบุรุษในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองของอังกฤษ

ป๋าเปรม ปลุกสำนึกความปรองดอง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 พ.ย. ที่หอประชุมใหญ่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณลาดกระบัง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เดินทางไปเป็นองค์ปาฐกถาพิเศษ ในงาน นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้า ลาดกระบังนิทรรศ 49 เทิดไท้ 60 ปีครองราชย์พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย ในหัวข้อ การปลุกจิตสำนึกให้เกิดความรักสามัคคี ปรองดอง เพื่อรักษาและพัฒนาบ้านเมือง โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และนายกสถาบันเทคโนโลยีพระเจ้าเกล้าฯเดินทางมาต้อนรับ

โดย พล.อ.เปรมได้กล่าวบรรยายตอนหนึ่งว่า การที่จะทำให้เกิดความสามัคคีปรองดอง จะต้องมีเครื่องยึดเหนี่ยวคือ ความรักชาติ หากทุกคนไม่รู้ว่าจะมีความรักความสามัคคีปรองดองกันเพื่ออะไร ก็ขอให้ตอบตัวเองว่า พวกเราจะสามัคคีเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีคุณอันประเสริฐในชาติบ้านเมืองของเรา ทุกวันนี้ชาติบ้านเมืองของเรามีความไม่สามัคคีปรองดองกันบ้าง บางส่วน มีความแตกแยกกันเห็นได้ชัดเจนของสังคม มีการกล่าวหากันไปมา ไม่มีใครยอมใคร ไม่มีกรรมการตัดสิน และไม่มีอนุญาโตตุลาการ

ยก สุรยุทธ์ เทียบชั้น เชอร์ชิล


พล.อ.เปรมกล่าวว่า คนไทยทุกคนจึงมีหน้าที่ทำให้เกิดความปรองดองในชาติ โดยควรจะทำเป็นข้อๆดังนี้ 1. ต้องยึดมั่นในความเสียสละสำคัญ 2 ประการคือ สละเพื่อส่วนรวมอันยิ่งใหญ่และเหนือกว่าประโยชน์ ส่วนตัว กับสละความคิด จิตใจ ที่ต่ำทราม กักขฬะ

ทุกคนต้องรู้จักมิสเตอร์วินสตัน เชอร์ชิล เป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนคุณสุรยุทธ์นี่แหละ เขาเป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ตอนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่มาที่ไปก็คล้ายๆ คือไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎร แต่เขาถูกเชิญให้มาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะควีนเห็นว่าเขาเป็นคนที่เหมาะสม คุณเชอร์ชิลได้พูดเรื่องเสียสละเป็นประโยคภาษาอังกฤษ ให้เห็นว่าจำเป็นต้องเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง นายกฯสุรยุทธ์ของเราก็เหมือนกัน ที่มาเป็นนายกฯโดยไม่ได้ตั้งใจมาเป็น แต่ก็เพื่อชาติบ้านเมือง เชอร์ชิลได้พูดไว้ตอนสงครามโลกครั้งที่สองว่า

สงครามโลกครั้งที่สองเกิดขึ้นเพราะความอยากมีอำนาจของคนไม่ถึง 10 คน ซึ่งคน 10 คนนี้ ทำให้คนทั้งโลกรบกันเป็นเวลาหลายปีเพราะอยากมีอำนาจ เพราะฉะนั้นผมไม่ทราบเหมือนกันว่า อำนาจมีกลิ่นหอมหวนอย่างไร คนจึงอยากได้กันนัก เมื่อผมเป็นนายกรัฐมนตรี ผมไม่รู้สึกว่าอำนาจมันเป็นเครื่องดึงดูดให้เราทำโน่นทำนี่เลย ผมกลับเห็นว่าเราไม่ควรมีอำนาจมากนัก ประธานองคมนตรีกล่าว

แนะยึดคุณธรรม ไม่เล่นพวก


พล.อ.เปรมกล่าวว่า 2. ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่ใช่แค่ตัวเราแต่จำเป็นต้องทำให้คนรอบข้างเราซื่อสัตย์สุจริตด้วย 3. ควรยึดมั่นในกฎหมายและศีลธรรม 4. ยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรม คนดีเท่านั้นถึงจะมีคุณธรรมและจริยธรรมได้ ส่วนคนไม่ดีมีไม่ได้ 5. ต้องยึดมั่นในความเป็นธรรม ที่บางคนถือว่าการปฏิบัติตามกฎหมายก็ถือว่าเป็นธรรมแล้ว จริงหรือไม่จริง ถูกหรือไม่ถูกตนเองไม่สามารถยืนยันได้ โดยความเป็นธรรมหมายถึงความยุติธรรมด้วย ความเป็นธรรมดูได้ด้วยมาตรฐานในการทำหน้าที่

และมีมาตรฐานเดียวไม่ว่าจะใช้ที่ไหนก็ตาม ไม่ใช่ทำอะไรตามชอบใจ นอกจากมีมาตรฐานเดียวแล้ว ต้องไม่มีระบบระบอบพรรคพวกเพื่อนฝูงพี่น้อง เพื่อประโยชน์อันไม่เป็นธรรม หรือทำอะไรไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เรื่องความเป็นธรรม ทำให้เกิดคำศัพท์ที่มีคนใช้กันมากคือล้างบาง 6. ต้องยึดมั่นในความโปร่งใสของการปฏิบัติ 7. ต้องเข้าใจเรื่องค่านิยมที่ดีและถูกต้อง แปลง่ายๆว่าคือคนรวยไม่จำเป็นต้องเป็นคนดี คนจนไม่จำเป็นต้องเป็นคนไม่ดี ความจนไม่ใช่เป็นเครื่องวัดความดีความเลว

สกัดคนไม่ดีห้ามยุ่งกับบ้านเมือง


พล.อ.เปรมกล่าวว่า 8. ทุกคนที่ทำงานมีทั้งข้อบกพร่องและผิดพลาด แม้จะระมัดระวังอย่างไรก็ผิดพลาดได้เพราะฉะนั้นการยอมรับผิด ขอโทษให้อภัยซึ่งกันและกัน ปรับความเข้าใจหันหน้าเข้าหากัน ไม่หวาดระแวงซึ่งกัน และกัน ให้ความจริงใจต่อกัน จะทำให้เกิดความสามัคคีปรองดอง 9. ต้องเข้าใจว่าความมั่นคงของรัฐเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความสามัคคีปรองดอง 10. ทุกคนต้องยึดมั่นอยู่ในการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน

โดยการเป็นคนดี 11. ทุกคนต้องยึดมั่นในพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัส อย่างเรื่องที่พระองค์ท่านรับสั่งมา 30 กว่าปีแล้วเรื่องคนดีคนไม่ดี อย่าให้คนไม่ดีเข้ามายุ่งกับบ้านเมือง โปรดอย่าท้อถอยว่าเราทำได้หรือทำไม่ได้ เพราะว่าเราสามารถทำได้ ถึงทำได้ไม่ทั้งหมด แต่ถ้าเราสามารถไม่ให้คนไม่ดีมายุ่งเกี่ยวกับชาติบ้านเมือง นั่นคือการตอบแทบบุญคุณแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่

ย้ำใครคิดยึดบ้านเมืองต้องหายนะ


พล.อ.เปรมกล่าวว่า การพัฒนาชาติบ้านเมืองโดยคณะบุคคลเช่นรัฐบาล และองค์กรต่างๆก็จำเป็นต้องมีผู้นำซึ่ง 1. ผู้นำต้องบริสุทธิ์ ประชาชนต้องยอมรับและศรัทธา ผู้นำชาติบ้านเมืองต้องเห็นว่า ชาติบ้านเมืองสำคัญและต้องมาก่อนการเมือง 2. ผู้นำต้องรู้ปัญหาและเข้าใจปัญหา แก้ปัญหาได้และแก้เป็น 3. ผู้นำต้องมีสปิริต ต้องใช้อำนาจเป็นธรรม ไม่หลงอำนาจ

และไม่ยึดติดกับอำนาจ และข้อสุดท้ายคือ ผู้นำต้องรู้จักพอและต้องเข้าใจในทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง อยากพูดให้ฟังอีกครั้งว่าชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใครก็ตามแม้เพียงแต่คิดจะยึดถือเป็นของตนเอง หรือของพรรคพวกตนเองเพื่อประโยชน์อันไม่ชอบธรรมต่อตนเอง หรือต่อพรรคพวกของตนเอง จะพบกับความหายนะในที่สุด พระสยามเทวาธิราชจะปกป้องคุ้มครองคนดีของชาติบ้านเมืองเสมอ และจะสาปแช่งคนไม่ดีให้ตกมีอันเป็นไป ต้องตกทุกข์ได้ยากแสนสาหัสตลอดชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวได้ถาม พล.อ.เปรมว่าเห็นควรที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเดินทางกลับประเทศหรือไม่ พล.อ.เปรมกล่าวว่า ต้องไปถามนายกฯ พร้อมกลับชี้นิ้วไปที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่เดินตามหลังมาส่ง พล.อ.เปรมขึ้นรถเดินทางกลับ


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์