ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากรณีบุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง โดยมี พ.ต.อ.ศานิตย์ มหถาวรณ์ รอง ผบก.ป.มารับมอบตัว
นายสนธิ กล่าวว่า ตนมองว่าเรื่องนี้คงอีกยาว และเชื่อว่าด้วยพยานหลักฐานพิสูจน์ว่าข้อหาก่อการร้ายที่พนักงานสอบสวนตั้งไว้นั้น เพื่อต้องการจงใจกลั่นแกล้ง ทั้งนี้ตนอยากเตือนสติตำรวจที่ทำสำนวนคดีดังกล่าวว่า ภาคประชาชนไม่ยอมแน่ มีการเอาคืนตามกฏหมายแน่นอน เหมือนเช่น พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ที่กล่าวหาว่าพันธมิตรฯ เป็นกบฏ ซึ่งศาลตัดสินแล้วว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยไม่มีมูลความจริง จากนั้นเราได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.ต.อำนวย และพวก กับสำนักงานคณะกรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่งหาก ป.ป.ช.ชี้ว่าไม่มีมูลก็จบไป แต่หากป.ป.ช.ว่ามีมูลถึงแม้ตอนนั้น พล.ต.ต.อำนวย แม้จะได้ขึ้นเป็น ผบ.ตร.ก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง
"ผมอยากฝากไปถึงตำรวจที่รับใช้นักการเมืองบางกลุ่มและทำตัวน่าสมเพศเพื่อต้องการยศ ตำแหน่ง เมื่อโดนภาคประชาชนเอาคืนบ้างอย่ามาร้อง อย่ามาขอความกรุณา เพราะภาคประชาชนไม่มีวันเกษียณ ตำรวจต้องเกษียณ ต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาลในวัยเกษียณอีกนาน อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกันบรรดาแกนนำไม่มีใครยอม จะสู้ตามกฏหมายแน่นอน" นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ส่วนคดีก่อการร้ายจะมีสองกลุ่ม มอบตัวกลุ่มหนึ่ง แต่อีกกลุ่มไม่มอบตัว และต้องรอดูว่าศาลจะออกหมายจับข้อหาก่อการร้ายหรือไม่ หากศาลไม่ยอมออกหมายก็จะดำเนินการกับพนักงานสอบสวนชุดนี้อย่างเด็ดขาดแน่นอน ทั้งนี้ทางเรามีพยานที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐว่าผู้ที่โดนแจ้งข้อหาก่อการร้ายมีเพียง 13 คนเท่านั้น แต่ตำรวจเหวี่ยงแหเพิ่มผู้ต้องหาเข้าไป
ต่อมาเวลา 08.25 น.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอีก 1 คน เดินทางโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆทั้งสิ้น