"การปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ"
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะทำงานพัฒนาระบบงานตำรวจ และมีชื่อตัวเองอยู่ในคณะทำงานว่า ก่อนหน้านี้ 4 สัปดาห์ได้คุยกับนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม
เรื่องการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจได้เสนอไปว่า ควรตั้งคณะทำงานที่มีความเป็นกลาง อาจประกอบด้วย คณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งทำให้เสร็จใน 3 เดือน
นายสังศิตกล่าวว่า ระบบปัจจุบันให้อำนาจคนคนเดียว หรือไม่กี่คน ดูแลตำรวจ 2.4 แสนนาย ทำให้งานไม่มีประสิทธิภาพ มีการวิ่งเต้นคดี วิ่งเต้นตำแหน่ง มีเส้นสาย มีคดีค้าง คดีที่อ่อนไหวก็ล่าช้า กรอบการทำงานในการปฏิรูป คือทำให้ตำรวจเล็กลง อำนาจรวมศูนย์ก็ให้กระจายออกไป ตำรวจนครบาลขึ้นกับผู้ว่าฯ กทม. ส่วนตำรวจอีก 75 จังหวัด ขึ้นกับผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ต้องมีกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ส่วนกองบัญชาการ ตำรวจสอบสวนกลาง กองปราบปรามให้ขึ้นกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โครงสร้างตามที่เสนอไปจะทำให้ตรวจสอบการทำงานและการทุจริตของตำรวจได้ง่ายขึ้น รวมทั้งระบบการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งจะทำได้ยากกว่าเดิม รวมถึงยกเลิกการแต่งตั้งระดับนายพลได้มหาศาล ประหยัดงบประมาณ สามารถนำภาษีไปสนับสนุนด้านการศึกษาได้