นายไมเคิล มอนเตซาโน นักวิชาการรับเชิญ สถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาแห่งสิงคโปร์
แสดงความเห็นในบทความของนสพ.พนมเปญ โพสต์ เมื่อวันพุธ(25 สค)ว่า การลาออกของ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะเป็นผลมาจากการเจรจาพูดคุยระหว่างรัฐบาลไทยกับพูชามาระยะหนึ่งแล้ว ไม่น่าจะเป็นการลาออกโดยสมัครใจดังที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงกัมพูชาระบุ อย่างไรก็ตาม การรื้อฟื้นสัมพันธ์ทางการทูตเต็มรูปแบบ จะช่วยเปิดช่องให้สองประเทศ ได้หารือกรณีพิพาทดินแดนกันได้โดยตรงมากขึ้น แทนตะโกนใส่กันแบบเมื่อก่อน
ด้านนายคริส รอเบิร์ตส์ นักวิชาการภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเอเชียศึกษา มหาวิทยาลัยแคนเบอร์รา มองว่าแม้ฟื้นสัมพันธ์การทูตเต็มรูปแบบ แต่หนทางยังอีกยาวไกล นายอภิสิทธิ์ยังมีความเสี่ยงจากกระแสชาตินิยมในฝ่ายเสื้อเหลือง ในการเจรจาทำความตกลงใดๆก็ตามกับกัมพูชาในเรื่องที่เกี่ยวกับดินแดน
ส่วนนายโอ วิรัก ประธานศูนย์สิทธิมนุษยชนกัมพูชา ให้ความเห็นว่าการเคลื่อนไหวตัดสัมพันธ์กับพ.ต.ท.ทักษิณ
เช่นเดียวกับการวิงวอนสหประชาชาติกับอาเซียนให้ยื่นมือไกล่เกลี่ย เป็นส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหวเชิงรุกของรัฐบาลกัมพูชาที่ต้องการยุติกรณีพิพาทโดยเร็ว แต่นายมอนเตซานโต ชี้ว่าการฟื้นความสัมพันธ์ ไม่ได้หมายความว่าจากนี้ไป กัมพูชาจะประนีประนอมในเรื่องชายแดน ทั้งไม่เคยส่งสัญญาณว่าจะลดการวิจารณ์โจมตีที่มีขึ้นต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา โดยแถลงการณ์ล่าสุดที่ออกมาจากหน่วยแถลงข่าวและตอบโต้เร็วเมื่อวันอังคาร(24สค) ยังคงกล่าวหานายกฯอภิสิทธิ์ว่ากำลังกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดและสนับสนุนกิจกรรมที่ส่อไปในทางอาชญากรรมของกลุ่มคนเสื้อเหลือง