เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ"เรืองไกร" จี้ "กรณ์" สอบภาษี "ธาริต"เงินค่าบริการบางอย่าง 1.5 แสนบาทถูกต้องหรือไม่ ย้ำเป็นถึงอธิบดีดีเอสไอไล่สอบเส้นทางเงินคนอื่นต้องรู้ดี...
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึง รมว.คลัง เมื่อวันที่ 2 ส.ค. เพื่อขอให้ตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีคู่สมรสได้รับเงินได้พึงประเมินจาก "ค่าบริการบางอย่าง" ว่าได้มีการนำเงินได้ดังกล่าวไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใน นามของนายธาริต แล้วหรือไม่ หากยังมิได้ดำเนินการกรมสรรพากรควรทำหน้าที่เรียกเก็บภาษีให้ครบถ้วนต่อไป
ทั้งนี้ จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทสโก้ โลตัส รังสิต ของนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยานายธาริต จำนวน 150,000 บาท เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2551 โดยระบุว่าเงินดังกล่าวไม่ใช่เงินสินบน เป็นเงินค่าบริการบางอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตามเงินค่าบริการดังกล่าวย่อมถือเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้ รับมาในระหว่างปี 2551 ตามกฎหมายประมวลรัษฎากร จะต้องนำไปเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในวันที่ 31 มี.ค. 2552
ซึ่งเงินได้ดังกล่าวเชื่อได้ว่า น่าจะได้รับมาจากบุคคลอื่นที่มิใช่ในฐานะนายจ้าง จึงไม่เข้าลักษณะเงินได้ตามมาตรา 40 (1) แต่น่าจะถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (8) ที่กฎหมายได้กำหนดว่า ให้ถือเอาเงินได้พึงประเมินของภรรยาเป็นเงินได้ของสามี ดังนั้นจึงต้องนำเงินได้มารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในนามของนายธาริต ภายในวันที่ 31 มี.ค. 2552
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า จากการติดตามข่าวผลงานและประวัติของนายธาริต เชื่อได้ว่า เป็นผู้มีความรู้ทางกฎหมายเป็นอย่างดี ทั้งด้านการศึกษาและการทำงาน โดยเฉพาะมีผลงานการตรวจสอบคดีพิเศษเกี่ยวกับเส้นทางเงินในบัญชีของบุคคลและนิติบุคคลหลายกรณี และนางวรรษมล ก็เป็นข้าราชการผู้มีความรู้ทางกฎหมายทั้งด้านการศึกษาและการทำงานเช่นเดียวกัน ซึ่งเชื่อได้ว่าเงินได้ดังกล่าวน่าจะได้นำไปรวมคำนวณภาษีตามกำหนดเวลาของกฎหมายแล้ว แต่เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดความเป็นธรรม จึงเรียนมายังรมว.คลัง ให้มีการตรวจสอบการเสียภาษีจากเงินค่าบริการดังกล่าวว่า ได้ดำเนินการเสียภาษีอย่างครบถ้วนแล้วหรือไม่
อีกทั้งควรตรวจสอบถึง เงินได้จำนวนอื่นจากรายการบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวด้วยว่า มีเงินได้ค่าบริการบางอย่างหรือเงินได้ประเภทอื่นที่ได้รับมาก่อนหน้าหรือหลังจากวันที่ 21 ก.ค. 2551 ด้วยหรือไม่ ถ้าหากตรวจพบว่ามีเงินได้ในลักษณะเดียวกัน ควรขยายผลตรวจสอบเพื่อเรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ครบถ้วนต่อไป โดยกรมสรรพากรมีหน้าที่ตรวจสอบการเสียภาษีและเรียกเก็บภาษีในส่วนที่ยังไม่ ได้ชำระให้ครบถ้วน โดยผู้ที่ชำระภาษีขาดไปจะต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 พร้อมเบี้ยปรับ(ถ้ามี).
เรืองไกรเกาะติดจี้กรณ์สอบภาษี ธาริตกรณีเช็ค1.5แสน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง เรืองไกรเกาะติดจี้กรณ์สอบภาษี ธาริตกรณีเช็ค1.5แสน
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday