ล็อกนักเลือกตั้งมันยาก

ดูเหมือนจะกลายเป็นบ่อน้ำมันแหล่งใหญ่ของรัฐบาลชุดนี้ไปแล้ว สำหรับนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี


ตั้งแต่คิวที่ออกมาเปิดตารางทำงานล่วงหน้า แบไต๋ต่อเวลารัฐบาลเฉพาะกิจออกไปเป็น 1 ปีครึ่ง จุดพลุเสียงโห่ ระดมเสียงต้านจากฝ่ายที่ต้องการเลือกตั้งเร็วๆ

กระตุ้นต่อมระแวงของกลุ่มคนในสังคมที่อยากให้บ้านเมืองกลับสู่บรรยากาศประชาธิปไตยไวๆ


แรงกระเพื่อมบานปลายถึงขนาดที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ต้องออกแรงเคลียร์เหนื่อย

ประสานเสียงยืนยัน จะเร่งทำให้เร็วที่สุด


เกือบทำวงแตกมาแล้วรอบหนึ่ง


มารอบนี้ ยี่ห้อ ธีรภัทร์ ภูมิใจนำเสนอแนวคิดในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้จำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพียง 2 วาระ หรือ 8 ปี

เรตติ้งกระฉูดกว่าคิวแรก


เป็นอะไรที่กระตุ้นให้เกิดวาระแห่งชาติในหมู่นักเลือกตั้งโดยอัตโนมัติ ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ สามัคคีชุมนุมในหมู่นักการเมืองอย่างไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน

ทุกพรรครวมหัวพูดเป็นเสียงเดียวกัน

ไล่กันเป็นลำดับตั้งแต่รุ่นใหญ่ ป๋าเหนาะ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ใส่แหลกตามสไตล์ ข้อเสนอดังกล่าวเท่ากับเป็นการสกัดคนดีไม่ให้เข้ามาทำงานการเมือง ผลสุดท้ายจะทำให้บ้านเมืองเกิดปัญหา

ตัวอย่างการกำหนดให้ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ในตำแหน่ง 6 ปี ผลที่สุดบางคนเมื่อเข้ามาแล้วก็ถูกการเมืองครอบงำ ไม่ตั้งใจทำงาน เพราะเห็นว่าทำไม่กี่ปีก็หมดวาระแล้ว


ถ้าเป็นลักษณะนี้บ้านเมืองก็บรรลัย


นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซัดเปรี้ยงแบบไม่ต้องมองหน้า เรื่องนี้เป็นความเห็นของเทคโนแครตที่เติบโตจากสายข้าราชการประจำ ที่มักเสนอในสิ่งที่สอดคล้องกับตัวเอง โดยขาดความเข้าใจต่อระบบการเมือง ทั้งที่รู้ว่าประเทศเป็นประชาธิปไตย

เข้าใจว่า เป็นการเสนอเพื่อเปิดช่องทาง เปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

แต่มาจากสายข้าราชการเข้ามาปกครองบ้านเมือง ลดโอกาสและบทบาทของนักการเมืองจากการเลือกตั้งที่สะสมความรู้ ประสบการณ์จากประชาชน

เหมือนนัดกันไว้ เทพเทือก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกโรงค้านหัวชนฝา รัฐธรรมนูญไม่ควรไปปิดกั้นในเรื่องนี้ เพราะทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ เนื่องจาก ส.ส.เป็นผู้แทนฯที่มีความรู้ความสามารถ และเข้าใจภารกิจหน้าที่ในการทำเพื่อประชาชน


นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อัดแหลก


แบบไม่ติดเบรก เป็นนักวิชาการที่ร้อนวิชา เมื่อมี โอกาสเข้ามาเสพอำนาจก็หลงใหลในอำนาจจนไม่ลืมหูลืมตา เสนอเรื่องดังกล่าวทั้งที่ขัดต่อหลักประชาธิปไตย ไม่มีประเทศไหนในโลกทำกัน

ขนาดคนที่นานๆจะโผล่หน้าออกมาพูดเป็นข่าวกับเขาสักทีอย่างนายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชรหลายสมัย คิวนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเหน็บแบบเจ็บๆคันๆ

ผมคิดว่าอาจารย์ที่ออกมาพูดน่าจะเป็นเพราะอยากทำให้ พวกนักการเมืองอยู่นานๆหายไป ตัวเองจะได้เข้ามา เพราะแข่งแล้วสู้เขาไม่ได้ ก็เลยปิดทางเขา



หูชาไปเลย

และบังเอิญไม่ใช่มีแต่นักเลือกตั้งเท่านั้นที่ไม่รับมุกแนวคิดของนายธีรภัทร์ แม้แต่เทคโนแครตด้วยกันอย่างนายไชยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชาปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้โด่งดังจากคิวฉีกบัตรเลือกตั้งประท้วงระบอบทักษิณ ก็ยังท้วงนิ่มๆ

อาจารย์ธีรภัทร์อาจจะหวังดี แต่ได้มองอย่างถี่ถ้วนแล้วหรือยัง การใช้ไอเดียโดยไม่คิดให้ดี อาจทำให้ระบบราชการกลับมาเข้มแข็ง คิดให้ดี พูดน่ะพูดได้ แต่รู้ที่มาที่ไปและความคิดพื้นฐานหรือไม่


น้ำหนักวูบไปอีกเยอะ

ก็น่าสนใจ ขนาดแค่คิดบล็อกนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส. จำกัดสิทธิให้คนละไม่เกิน 8 ปี ยังโดนแรงต้านหนักเสี่ยงออกทะเลขนาดนี้ ยังไม่ได้พูดถึงธงที่วางกันไว้จะจัดให้เลือก ส.ส.พวงใหญ่ยกจังหวัด แบบเดียวกับการเลือก ส.ว. เพื่อตีให้ฐานเสียงกระจาย จะได้โละพวกหน้าเก่าที่เสียงแน่นอยู่แต่ในเขต

เดี๋ยวคงได้เห็นฤทธิ์เดชนักเลือกตั้งอีกยก.



แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์