สนธิยันชัด เกษียณ ผบ.ทบ.ไม่ต่ออายุ

"เป็นเรื่องยาก"


ท่ามกลางการเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวคลื่นใต้น้ำในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยนั้น ล่าสุด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ระบุว่า ขณะนี้คลื่นใต้น้ำมีอยู่ไม่ถึง 5% และจะลดลงอีกหลังจากกองทัพภาคเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจ พร้อมยืนยันว่าเป็นเรื่องยากที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางด้วยรถยนต์เข้าประเทศไทยผ่านทางชายแดนภาคเหนือ

สนธิ ระบุคลื่นใต้น้ำมีไม่ถึง 5%

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้ สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาคลื่นใต้น้ำทางการเมืองว่า ขณะนี้กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 3 อยู่ระหว่างการหารือกับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจในการแก้ไขปัญหาคลื่นใต้น้ำ เชื่อว่าจะลดลงหลังมีความเข้าใจร่วมกันมากขึ้น ตอนนี้กลุ่มคลื่นใต้น้ำมีไม่ถึง 5% เป็นกลุ่มที่ไม่พอใจการปฏิรูปของ คมช. และกลุ่มคนที่เสียประโยชน์จากการปฏิวัติ คนเหล่านี้เป็นพวกมีอุดมการณ์ น้อยมาก และมีกลุ่มที่พยายามยุแหย่ปลุกระดม ส่วนพวกที่รวมตัวชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวงนั้น ไม่น่าห่วง คมช.คุมสถานการณ์ได้ เพราะมั่นใจว่าทุกคนเป็นคนไทย ไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะลอบเดินทางเข้าประเทศไทยตามแนวชายแดนภาคเหนือนั้น หากเดินทางเข้ามาด้วย รถยนต์คงเป็นเรื่องยาก ถ้าจะกลับประเทศไทยจริงๆ การติดต่อกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี จะทำได้ง่ายกว่า

เผยนั่งประธาน คมช.จนถึงเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต่ออายุราชการในตำแหน่งผบ.ทบ.หรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า ไม่มีการต่ออายุราชการ เพราะถ้าทำอย่างนั้นจะเปลืองตัว เสียหายต่อตัวเอง อย่าง ไรก็ตาม หลังเกษียณอายุราชการแล้วจะยังทำงานในตำแหน่งประธาน คมช. จนกว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะร่างเสร็จ และแก้ปัญหาได้เสร็จสิ้น รวมถึงผลักดันการเลือกตั้งคืนให้ประชาชน คมช.ก็จะถอนตัวทันที

พล.อ.สนธิกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้มาเข้าพบเพื่อรายงานความคืบหน้าในการทำงาน โดยระบุว่ามีคดีค้างพิจารณาประมาณหมื่นคดี และมีคดีเกิดใหม่เดือนละประมาณ 300 คดี บางคดีมีมูลใหม่เพิ่มเข้ามาอีก ตนจึงต้องเสนอวาระแห่งชาติให้รัฐบาลในการแก้ปัญหาให้เสร็จสิ้น ซึ่ง คมช.ได้หารือจนได้ข้อสรุป 3 วาระคือ เรื่องความจงรักภักดี ความรู้รักสามัคคี และการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชัน ขณะนี้อยู่ระหว่างร่างกรอบและหลักการสั้นๆเสนอต่อรัฐบาลนำไปขยายผลเป็นรูปธรรม

มท.1 ฟุ้งรัฐบาลเน้นประชาธิปไตย


นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่าคลื่นใต้น้ำยังมีอยู่ในทุกพื้นที่ทางภาคเหนือว่า ขณะนี้ปัญหาการชุมนุมหรือคลื่นใต้น้ำไม่ได้มีการเคลื่อนไหวทวีความรุนแรงมากขึ้น และรัฐบาลพยายามสร้างความรู้สึกที่เป็นประชาธิปไตย แม้จะมีเหตุการณ์ปฏิวัติยึดอำนาจ แต่เนื้อแท้รัฐบาลไม่เคยบังคับขู่เข็ญใคร ถือว่าทำทุกอย่างดีกว่ารัฐบาลประชาธิปไตยด้วยซ้ำ เพราะทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ สร้างความรู้สึกที่เป็นประชาธิปไตยมาโดยตลอด อยากให้บ้านเมืองดีขึ้นและสงบสุข คณะรัฐมนตรีทั้งหมดอายุมากแล้ว อีกไม่นาน แผ่นดินก็จะกลบหน้า จึงทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำความเข้าใจกับประชาชนจะทำให้คลื่นใต้น้ำลดลงได้ หรือไม่ นายอารีย์กล่าวว่า ทุกคนคงสำนึกได้ว่ารัฐบาลทำอะไรอยู่

ชวน ตามบี้แจงพิษภัยระบอบทักษิณ

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่เคยเรียกร้องให้ คมช.ชี้แจงสาเหตุการปฏิวัติและปัญหาของระบอบทักษิณว่า ขณะนี้คมช.ยังไม่ได้ทำ และสิ่งที่เสนอไม่ใช่เพราะห่วง คมช. หรือรัฐบาล แต่เป็นห่วงความมั่นคงของสถาบัน ถ้าไม่ทำความเข้าใจในวันนี้ คนส่วนหนึ่งที่อยู่ใต้การครอบงำของระบอบทักษิณก็ยังชื่นชมศรัทธาระบอบนั้นอยู่ และจะมองสถาบันบ้านเมืองเป็นปฏิปักษ์หมด สิ่งเหล่านี้จะมาปะทะกับสถาบันของประเทศชาติ รัฐบาลนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง เชื่อว่าสามารถทำงานไปได้ปกติ แต่ต้องห่วงอนาคตประเทศ สถาบันหลักของบ้านเมือง อย่าให้สิ่งที่เป็นวิกฤติค้างคา การอธิบายทำความเข้าใจไม่ใช่เรื่องยาก สามารถบอกประชาชนได้เลย เช่น การเลือกปฏิบัติกับประชาชน ที่บอกว่าใครเลือกพรรคไทยรักไทยก็จะพัฒนาก่อน ตรงนี้ทำให้เกิดการแตกแยก หรือการตั้งกลุ่มขององค์กรท้องถิ่น ใครพรรคไหนไปปราศรัยก็ใช้วิทยุชุมชนปลุกระดมให้คนออกมาตีกัน สิ่งนี้ไม่ได้เกิดโดยธรรมชาติ แต่เกิดจากการยุยงส่งเสริมของอดีตรัฐบาล

แนะจัดการคลื่นใต้น้ำขั้นเด็ดขาด

นายชวนกล่าวว่า ส่วนปัญหาทุจริต การแทรกแซงองค์กรอิสระ ต้องอธิบายความจริงเพื่อลบล้างความไม่จริง ถ้ารัฐบาลพูดความจริงให้เห็นพิษภัยของสิ่งเหล่านี้ ประชาชนจะเกิดความเข้าใจที่ดีขึ้น ขณะนี้พูดกันถึงเรื่องคลื่นใต้น้ำ แต่การแก้ไขด้วยการไปปรามไปขู่จะได้ผลเพียงชั่วระยะหนึ่ง แต่สำนึกคนเหล่านี้ยังอยู่เหมือนเดิม วิธีที่ดีที่สุดคือการอธิบายให้เกิดความกระจ่างว่าที่ทำคลื่นใต้น้ำหรือยุยงคนให้ออกหนังสือโจมตีรัฐบาลหรือ คมช. เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง คนที่รับจ้างมาทำถึงอธิบายอย่างไรก็ไม่เกิดประโยชน์ต้องปล่อยไป แต่คนที่เป็นคลื่นใต้น้ำที่ทำผิดกฎหมายเช่นการเผาโรงเรียน ต้องดำเนินการโดยเด็ดขาด ต้องลงโทษอย่างรุนแรง หรืออย่างเรื่องที่ไฟฟ้านัดกันช็อต 5-6 จังหวัด เป็นเรื่องของคนที่มีประโยชน์เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง น่าเสียดายที่รัฐบาลกับคมช.ไม่หารือกันว่าตรงจุดนี้ใครควรเป็นผู้ชี้แจง ทั้งที่รัฐบาลเกิดจากการปฏิรูปการปกครอง ตั้งโดย คปค. แต่กลับทำงานโดยพยายามจะไม่ผูกพันกับสิ่งที่ทำให้ตัวเองเกิดขึ้น

กรีด รมต.บางคนไม่ช่วยแก้วิกฤติ


นายชวนกล่าวว่า บางคนไม่ได้ทุกข์ร้อนกับระบอบทักษิณ สมัยเป็นระบอบทักษิณก็สนับสนุน ตอนนี้ก็เข้ามาเป็นรัฐมนตรี หรือทำงานร่วมกับรัฐบาล คนเหล่านี้จึงไม่ทุกข์ร้อนที่จะชี้แจงความจริง คิดแต่จะทำงานไปข้างหน้าเพื่อผลงาน อยากให้รัฐมนตรีเหล่านี้คิดว่าเมื่อมาเพราะวิกฤติ ก็ควรมีส่วนในการคลี่คลายด้วย ส่วนตัวคิดว่าประธาน คมช.กับนายกฯคงพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่ทำไมถึงไม่พยายามทำความเข้าใจ เป็นเรื่องที่ตนไม่ทราบเหตุผล อาจคิดว่าพูดไปแล้วเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่มันยังไม่พอ คมช.และรัฐบาลต้องอธิบายความจริง อย่าไปกล่าวหายัดเยียด แค่พูดความจริงก็พอ ไม่ต้องประกาศเป็นนโยบาย แต่ทำเพราะรู้ว่าเป็นหน้าที่ต้องทำ

เตือนระวังม็อบต้านปฏิวัติขยายตัว

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า การเสียชีวิตของนายนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ที่ผูกคอตายประท้วงการปฏิวัติยึดอำนาจของ คปค. เป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เกิดจากความคิดของบุคคลหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการก่อรัฐประหาร เราต้องเคารพความเห็นที่แตกต่าง แต่เหตุการณ์นี้เป็นการก่อตัวจากจุดจุดเล็ก ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอาจกลายเป็นจุดใหญ่ในสังคม เพราะยังมีประชาชนที่ไม่เชื่อแนวทางการทำรัฐประหาร และอาจมีวิธีการกระทำที่แตกต่างกันไป ดังนั้น รัฐบาลและ คมช.ต้องตระหนักถึงจุดนี้ และเร่งสื่อสารเชิงรุกให้ประชาชนเข้าใจถึงความจริงที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้สูญเสียอำนาจขยายตัวมากขึ้น

หวั่น คมช.เพลี่ยงพลํ้าเกม ทักษิณ

นายองอาจกล่าวอีกว่า ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณและพวกพ้องที่เป็นข่าวในช่วงนี้ เช่น ข่าว พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางจากประเทศสิงคโปร์แล้วเข้ามาประเทศไทย หรือเดินทางจากประเทศจีนโดยรถยนต์เข้าทาง จ.เชียงใหม่นั้น ถือเป็นการทำสงครามทางจิตวิทยามวลชน สร้างแรงกดดันเชิงจรยุทธ์ เพื่อรักษาการเคลื่อนไหวทางการเมืองแบบหนึ่ง โดยอาศัยการเคลื่อนไหวมาต่อรอง และเป็นความพยายามช่วงชิงอำนาจกลับคืนมาให้ได้ แม้ทีมของ พ.ต.ท.ทักษิณปฏิเสธข่าวเหล่านั้น แต่ไม่สามารถเชื่อถือได้ เพราะในอดีต คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่สามารถเชื่อถือได้ มักปรับเปลี่ยนคำพูดตลอดเวลา ดังนั้น รัฐบาลและ คมช.ต้องรู้เท่าทันความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณและพวกพ้อง ไม่เช่นนั้นจะเพลี่ยงพล้ำจนประเทศชาติเสียหายไปด้วย

นพดล เผย ทักษิณ ยังอยู่เมืองจีน

ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณสบายดีและยังอยู่ที่ประเทศจีน ครั้งสุดท้ายที่โทรศัพท์คุยกันเมื่อ 3 วันก่อน ได้รับคำยืนยันว่าจะยังไม่เดินทางกลับไทยในขณะนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณมีกำหนดจะเดินทางไปที่ไหนต่อ นายนพดลตอบว่า ยังไม่มีข้อมูล เพราะเกรงใจจึงไม่กล้าถาม และถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว อย่างไรก็ตามหลังจากการแถลงข่าวครั้งล่าสุดของตนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณรู้สึกพอใจ เพราะแนวทางในขณะนี้ควรจะดำเนินไปด้วยการสร้างสมานฉันท์ ไม่อยากให้คนหวาดระแวงกัน เมื่อถามถึงกรณีที่อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยระบุว่าการที่อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยทยอยลาออกจากพรรค เป็นแผนของอดีตแกนนำพรรคที่ต้องการจะให้ คมช.ตายใจ นายนพดลตอบว่า ประเทศไทยมีนักวิเคราะห์จำนวนมาก แต่ข้อเท็จจริงคือสิ่งที่ตนพูด เวลาจะเป็นตัวพิสูจน์ว่าสิ่งที่แถลงข่าวไปนั้นจริงหรือไม่

ลูกพรรคเชื่อ ทรท.ถูกยุบทิ้งแน่


นายเฉลิมชัย อุฬารกุล อดีต ส.ส.สกลนคร พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองของพรรคไทยรักไทยว่า มีความคิดเช่นเดียวกับ นพ.สุทธิชัย จันทร์อารักษ์ อดีต ส.ส.ยโสธร พรรคไทยรักไทย ที่เห็นว่าพรรคจะต้องถูกยุบแน่ แต่เมื่อยุบไปแล้วก็คงจะมีการตั้งใหม่ เพียงแต่ใครจะได้ชื่อไป

และใครที่จะทำนโยบายให้ประชาชนเชื่อว่าเป็นของพรรคไทยรักไทยเดิม เพราะจะได้คะแนนเสียงจากชาวบ้านที่ยังนิยมชมชอบอยู่ ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน มีแต่คาดการณ์กันไปว่าจะอยู่ตรงนั้นตรงนี้ แต่ก็พลิกผัน ได้หมด ต้องรอให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จก่อน ทุกอย่างจึงจะมีความชัดเจน


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์