มาร์คไม่ได้อ่านมาร์คAFโพสต์ชี้หยาบไม่เหมาะ

(6ก.ค.)  ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.15 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

ได้ลงมาร่วมรับโทรศัพท์ซึ่งขณะนั้นมีกลุ่มศิลปินจากอะคาเดมีแฟนเทเชีย อาทิ “พะแพง-เปรี้ยว-มิคกี้-พิ้ง” มาร่วมรับโทรศัพท์ด้วย ซึ่งนายกฯนอกจากจะร่วมรับสายโทรศัพท์จากประชาชนในวันสุดท้ายทั้งหมด 15 สายแล้ว ยังได้เดินให้อาสาสมัครที่มารับโทรศัพท์ถ่ายรูปอย่างเป็นกันเองด้วย


จากนั้นนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งกรณีที่ นายวิทวัส ท้าวคำลือ หรือ "มาร์คAF" อายุ 17 ปี

ผู้เข้าแข่งขันรอบสุดท้ายรายการเรียลลิตี้ทีวีล่าฝันยอดนิยม ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ซีซั่น 7 (เอเอฟ 7) หมายเลข “วี 11” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัววิพากษ์วิจารณ์ด้วยถ้อยคำรุนแรง ว่า ตนไม่ได้อ่านข้อความ ดังกล่าว เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ต่อการที่เยาวชนมีความคิดทางการเมืองที่รุนแรง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ถ้าบอกว่าโพสต์ด้วยข้อความที่หยาบคาย ก็ถือว่าไม่เหมาะสม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสอบถามกับทีมพีอาร์ที่นำศิลปินเอเอฟฯเดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล

เพื่อรับสายประชาชนในวันนี้ก็พบว่า ขณะนี้นายวิทวัสกำลังอยู่ภายในบ้านเอเอฟ ซึ่งไม่มีทีวีให้ชม จึงทำให้นายวิทวัสเองไม่ทราบข่าวดังกล่าวที่เคยเคยโพสต์ข้อความไว้
ทั้งนี้ในการรับโทรศัพท์ของนายกฯครั้งนี้ก็ยังมีชาวบ้านโทรมาต่อว่าตัวนายอภิสิทธิ์นานถึง 5 นาที แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายกฯว่าโดนต่อว่าเรื่องอะไร นายอภิสิทธิ์ ยิ้มพร้อมกล่าวเลี่ยงว่า “ เขาไม่ได้บอกชื่อเรื่อง ” นอกจากนี้ ยังมีคนโทรศัพท์มาร้องเรียนนายอภิสิทธิ์ว่าหน้าห้องของนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุขด้วยว่ามีการพูดจาด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ก็ได้กล่าวชี้แจงว่าถือเป็นเรื่องที่ไม่ดี ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน และได้สั่งการณ์ให้เจ้าหน้าที่ทำเป็นบันทึกและดำเนินการต่อไป


นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงยอดการโทรศัพท์เข้ามาร่วมโครงการดังกล่าวที่มีไม่ถึง 6 หมื่นราย

เป็นไปไม่ได้ที่จะให้คนไทยทั้ง 63 ล้านคนโทรศัพท์เข้ามาแต่เสียงของคนเหล่านี้ก็สะท้อนความเป็นตัว แทนของประชาชนที่มีความหลากหลาย มาจากทุกภาค ทุกเพศ ทุกวัย และปัญหาก็มีหลากหลาย ก็ถือเป็นการสะท้อนปัญหาของประชาชนได้ระดับหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลมีหลายวิธีการที่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ส่วนข้อมูลที่ได้ก็เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆว่าสัดส่วนเรื่องต่างๆเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เท่าที่ตนได้รับสายก็แบ่งได้เป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นข้อเสนอแนะที่มีทั้งเรื่องการศึกษา ปัญหาการรณรงค์บางประเด็น ขณะเดียวกันก็มีเรื่องร้องเรียนเข้ามามาก ซึ่งเราก็ทราบว่าการเปิดช่องทางแบบนี้ประชาชนก็จะร้องเรียนเข้ามาถือเป็นการ สะท้อนปัญหาของโครงสร้าง ว่าการแก้ปัญหาด้วยกลไกปกติประชาชนส่วนใหญ่อาจไม่ทราบ หรือไม่สามารถตอบสนองได้


เมื่อถามว่าคิดว่าจะทำโครงการลักษณะนี้อีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการการรับฟังและเชิญประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในรูปแบบต่างๆจะมีการทำ อย่างต่อเนื่อง
 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์